ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย แนะนักลงทุนพิจารณาปรับพอร์ตการลงทุน เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในช่วงหุ้นปรับฐาน ส่วนที่ปลัด ก.คลัง แจงมาตรการจัดเก็บภาษีใหม่นั้น เพราะที่ผ่านมา มองว่าอาจมีการหลบเลี่ยงภาษี และต้องการให้มีการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมกันอย่างทั่วถึง
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานลงมาถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐาน และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเพื่อการเลือกลงทุนในระยะยาว
ขณะที่ในส่วนของกรณีที่ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเตรียมออกมาตรการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมซึ่งมองว่า อาจมีการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในลักษณะการตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาบังหน้านั้น ผู้จัดการตลาดหุ้นไทยกล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าปลัดกระทรวงการคลัง จะพิจารณาภาพรวมของโครงสร้างการจัดเก็บภาษีทั้งระบบที่ยังมีความคลุมเครือในหลายด้าน จึงต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมกันอย่างทั่วถึง โดยตนมองว่าเป็นเจตนารมณ์ที่ดีที่จะทำให้โครงสร้างภาษีทั้งระบบมีความเท่าเทียมกัน
“ส่วนของบริษัทจดทะเบียนไทยนั้น หากจะมีการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ จะต้องเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT เท่านั้น ซึ่ง บจ.ได้มีการทำตามกฎระเบียบ และกฎหมายอย่างถูกต้อง และมีผู้สอบบัญชีคอยตรวจสอบ และกองทุนฯ ที่ตั้งขึ้นมาก็มีการเสียภาษีอยู่แล้ว ส่วนของการเสียภาษีของผู้ถือหน่วยทรัสต์ของกอง REIT ทุกประเภทต้องเสียภาษี (กรณีบุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย 10%, กรณีนิติบุคคล เสียภาษีในอัตราปกติ) แต่ระดับกองทรัสต์ไม่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือ Property Fund กองทุนไม่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลผู้ถือหน่วยบางกรณีไม่เสียภาษีเงินปันผล”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 นี้เป็นต้นไป สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไม่อนุญาตให้ตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาใหม่ หลังจากนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องเป็นรูปแบบ REIT เท่านั้น และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เดิม สามารถเลือกเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบของ REIT หรือจะยังเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เหมือนเดิมก็ได้