เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ ตั้งเป้ารายได้ปี’ 58 โตไม่ต่ำกว่า 30% รับอานิสงส์ภาวะเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว-บริษัทมีแหล่งรายได้เพิ่ม “กิตติ พัวถาวรสกุล” เผยแผนธุรกิจนี้ลุยเปิดสาขาต่างประเทศแถบอาเซียนเพิ่ม รองรับ AEC ประเดิมจุดยุทธศาสตร์แรกที่สิงคโปร์ เชื่อหนุนรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคต โชว์ผลงานปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิวิ่งแตะ 19.54 ล้านบาท
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2558 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 19.54 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 915.54 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศเริ่มเข้าสู่สภาวะฟื้นตัว ประกอบกับบริษัทจะมีแหล่งรายได้เพิ่มเข้ามาทั้งจากการเข้าไปจัดตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศสิงคโปร์ โดยจัดตั้งเป็นสาขาของบริษัท เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ และเพิ่มแหล่งรายได้ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ใหม่ในการผลักดันธุรกิจให้มีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นการเติบโตที่มาจากสัดส่วนการเพิ่มขึ้นของงานลอจิสติกส์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่คาดว่าปีนี้น่าจะเป็นปีที่บริษัทเติบโตได้ดี โดยปีนี้บริษัทแผนเปิดสาขาต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะสาขาในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเน้นประเทศในแถบอาเซียน เช่น ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยสาขาแรกที่เปิดไปแล้ว คือ ประเทศสิงคโปร์ ชื่อ บริษัท เอ็นซีเแอล อินเตอร์ โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายหลักต้องการให้ธุรกิจของบริษัทเป็นที่รู้จัก มีโอกาสในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่มากขึ้น ที่สำคัญผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากการให้บริการลอจิสติกส์ระหว่างประเทศ 90% ภายในประเทศ 10% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนภายในประเทศเป็น 20% จากการขยายหัวรถลากที่คาดว่าปีนี้จะซื้อเพิ่มประมาณ 50 คัน ตามแผนการลงทุนจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
“ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ และเชื่อว่าในปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผมในฐานะตัวแทนผู้บริหาร และพนักงานของ NCL ขอสัญญาว่าจะมุ่งมั่นทำงาน และทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาบริษัทก้าวต่อไปข้างหน้าให้ได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง และจะผลักดันธุรกิจให้มีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตที่สูงมากยิ่งขึ้น” นายกิตติ กล่าว
