“วายแอลจี” ชี้การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐยังกดดันทองคำ อีกทั้งกระแสเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นยิ่งกดดันหนัก แนะจับตาความชัดเจนจากผลการประชุม FOMC ประเมินระยะสั้นยังเข้าเก็งกำไรจากการดีดตัวกลับได้บ้าง
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคายังถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังข้อมูลที่ออกมาในด้านตลาดการจ้างงานมีท่าทีที่สดใส ทำให้เชื่อกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ทำให้ทองคำปรับตัวลงอ่อนสุดในรอบ 3 ปี ไม่เพียงแค่นั้น การอ่อนค่าลงของเงินยูโรก็มีผลต่อราคาทองคำเช่นกัน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า อัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง 1 ยูโร/1 ดอลลาร์สหรัฐ อาจหลุดลงมาต่ำกว่านั้น
“ปัจจัยเหล่านี้มีผลทำให้ทองคำอ่อนตัวลง แต่ยังพบว่า ราคามีแรงสนับสนุนเข้ามาเช่นกัน ซึ่งมาจากทางการจีนมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอนุญาตให้ธนาคารท้องถิ่นสามารถสวอปในส่วนพันธบัตรรัฐบาลที่มีอัตราผลตอบแทนในอัตราดอกเบี้ยระดับสูง กับพันธบัตรของธนาคารท้องถิ่นที่มีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่า ทำให้เชื่อว่าจะมีเงินไหลเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทิศทางราคาทองคำ”
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ FOMC จะมีการแถลงรายงานการประชุม ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาท่าทีของประธานเฟดว่า จะมีการออกมาส่งสัญญาณต่อเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไร และมีแนวโน้มต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในทิศทางใด
“หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะมีผลให้ราคาทองคำปรับตัวลง เพราะถือว่าเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไวที่เรากว่าคาดการณ์ และแม้จะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ นักลงทุนก็ยังเชื่อว่าจะได้เห็นเรื่องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้่ยเป็นช่วงปลายปี”
ดังนั้น ในกลยุทธ์การลงทุน คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่จำกัด เพราะต่างระมัดระวังแรงซื้อแรงขายที่เกิดขึ้น ทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาลางลง แต่ถ้าหากการประชุม FOMC มีความชัดเจนมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การเคลื่อนไหวของราคาทองคำอาจถึงขั้นสวิงตัว และแกว่งตัวก็ได้ โดยมีแนวรับ 1,130-1,110 เหรียญ/ออนซ์
“ถ้าเป็นนักลงทุนระยะสั้นให้มองการเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในช่วงราคาทองคำดีดตัว ส่วนการลงทุนระยะยาวมองว่าแนวรับในโซนดังกล่าวสามารถเข้าทยอยซื้อสะสมได้ เพราะถือเป็นระดับราคาที่ค่อนข้างต่ำใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนการดีดตัวขึ้นหากราคายังไม่มีปัจจัยบวกมากพอก็อยากแนะนำนักลงทุนระยะสั้นแบ่งทองคำออกขาย โดยใช้โซนแนวต้าน 1,170-1,200 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งภาพรวมราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาลง นักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน”