ล็อกซเล่ย์ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15-20% จากงานสะสมในมือกว่า 7,000 ล้านบาท แย้มมีความพร้อมหากรัฐบาลอนุมัติออกหวยออนไลน์ สามารถติดตั้งทั่วประเทศได้ทันทีกว่า 6,000 เครื่อง จาก 12,000 เครื่อง
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ หรือ LOXLEY กล่าวว่า บริษัทฯคาดว่าอัตราเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 15-20% เทียบสัดส่วนรายได้จากปีก่อนที่ประมาณ 14,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานสะสมในมือ หรือ Backlog จากงานที่ต่อเนื่องในปีที่แล้วและโครงการวางโครงข่ายไอซีที 7,400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ที่ 70% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานใหม่โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการโครงข่ายไอซีทีของภาครัฐ มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท
“ขณะเดียวกัน หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับข่าวจากกระทรวงการคลังถึงการเตรียมยกเลิกสัญญาสัมปทานที่ทำไว้ต่อผู้ค้าส่งสลากกินแบ่งรัฐบาล (ยี่ปั๊ว) ในระบบเก่าซึ่งกำลังจะหมดอายุลงโดยจะพิจารณาแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายสลากฯ ใหม่ เป็นเครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาที่ยืดเยื้อมายาวนาน โดยหากรัฐบาลอนุมัติก็จะสามารถดำเนินการปรับปรุงระบบประมาณ 5-6 เดือน และติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์ได้ โดยจะใช้เวลาในการติดตั้งยังจุดจำหน่ายทั่วประเทศในช่วงแรกได้ทันทีจำนวน 6,000 เครื่อง จากทั้งหมด 12,000 เครื่อง”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้แจ้งไปยังสำนักงานสลากฯ เพื่อขอเข้าหารือในรายละเอียดถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ว่าจะมีการแก้ไขหรือการปรับปรุงรายละเอียดอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามสัญญาเดิม จะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ส่วนแบ่งการจากจำหน่ายฉลากออนไลน์อยู่ที่ใบละ 0.75 บาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดทางภาคใต้อีกอย่างน้อย 6 เมกะวัตต์ รวมไปถึงอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการเข้าไปลงทุนทำโรงไฟฟ้าพลังงานขยะและชีวมวล โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของโครงการได้ แต่คาดได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ มีเงินทุนสำหรับทำธุรกิจพลังงานในปัจจุบันอยู่ที่ 300-400 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่เหลือจากการเพิ่มทุนในปีที่ผ่านมา และหากต้องใช้เงินมากกว่าจำนวนดังกล่าว ก็จะพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อระดมทุนตามความเหมาะสมต่อไป
