xs
xsm
sm
md
lg

“GMM” ดันกล่องดิจิตอล 50% ผนึกพันธมิตรลุยทุกตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม” ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานแพลตฟอร์ม บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด (แฟ้มภาพ)
ASTVผู้จัดการรายวัน - “แกรมมี่” ทะลวงตลาดกล่องดาวเทียม ปีหน้าโกยยอดขายอีก 1.5 ล้านเครื่อง สู่ฝัน 5 ปีขึ้นแท่นผู้นำครองตลาด 50% หรือกว่า 10 ล้านเครื่อง ชี้ดิจิตอลทีวีมากช่องส่งตลาดกล่องยิ่งบูม ซุ่มจับมือพันธมิตรเพิ่ม ลุยขายทุกเซกเมนต์ หวังสิ้นปี 58 รายได้แตะ 1,200 ล้านบาท จากปีนี้ปิดที่ 900 ล้านบาท

นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานแพลตฟอร์ม บริษัท แซท เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือ “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกล่องรับสัญญาณจะยังคงมีอนาคตและมีตัวเลขการเติบโตที่ดีทั้งในส่วนของกล่อง T2 ที่ออกมารองรับการรับชมช่องทีวีดิจิตอล รวมถึงกล่องรับสัญญาณในระบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม โดยเชื่อว่ายิ่งมีจำนวนช่องรายการให้รับชมมาก โดยเฉพาะการเกิดใหม่ของช่องทีวีดิจิตอลกว่า 24 ช่อง ยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดกล่องรับสัญญาณยังเติบโตได้

ทิศทางการแข่งขันในปีหน้าจะไม่แตกต่างจากปีนี้ รวมถึงการแข่งขันทางด้านราคาอาจจะไม่เห็นระดับราคาที่ต่ำไปกว่านี้ เพราะถือเป็นราคาที่ต่ำสุดแล้วเฉลี่ยอยู่ที่ราคา 1,000 บาท แต่จะมีกล่องรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีเสริมเข้ามารุกตลาดเพิ่มทำให้ราคาอาจจะสูงขึ้นบ้าง แต่หากดีมานด์ในตลาดมีมากพอระดับราคาก็จะขยับลงมาตามกลไกตลาด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 บริษัทฯ พร้อมที่จะนำเสนอกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบ T2 รวมถึงแบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม โดยจะมีการจับมือกับพันธมิตรเปิดตัวกล่องรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีกไม่ต่ำกว่า 5 รุ่นภายใต้เป้าหมายยอดขายกว่า 1-1.5 ล้านกล่อง หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จากปีนี้ปิดที่ 900 ล้านบาท

สำหรับการเปิดตัวกล่องรับสัญญาณรุ่นใหม่ๆ นั้นจะเป็นการจับมือกับพันธมิตรรายใหม่เพิ่ม จากเดิมที่จับมือกับ “ล็อกซเล่ย์” ไปแล้ว โดยผลิตภัณฑ์ที่จะนำเสนอในปีหน้าจะครอบคลุม 3 แพลตฟอร์ม คือ กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล ราคา 1,000 บาท กล่องรับสัญญาณเคเบิลทีวี/ทีวีดาวเทียมทั้งแบบ SD และHD ราคาเฉลี่ย 650-1,800 บาท และกล่องสัญญาณรับชม IPTV ซึ่งเป็นตลาดใหม่ ต้นทุนสูงน่าจะวางราคาที่ 3,000 บาทต่อกล่อง

นายฟ้าใหม่กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตลาดกล่องรับสัญญาณ (ไม่รวมกล่องทีวีดิจิตอล) มีมูลค่ากว่า 3,000-5,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ สามารถจำหน่ายกล่องรับสัญญาณกว่า 5 ล้านกล่อง คิดเป็นอันดับ 2 ของตลาด หรือมีสัดส่วนที่ 25% ของจำนวนประชากร 22 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ทั้งนี้มั่นใจว่าตามแผน 5 ปี หรือภายในปี 2560 ยอดจำหน่ายกล่องของบริษัทฯ จะเพิ่มเป็น 10 ล้านกล่อง หรือเป็นผู้นำในตลาดกล่องรับสัญญาณ


กำลังโหลดความคิดเห็น