xs
xsm
sm
md
lg

บัวหลวงเผย เก็งกำไร DW หุ้นรับเหมาฯ คึก-ส่ง 23 ตัวเข้าเทรด 9 มี.ค. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.บัวหลวงเผยเดือน ก.พ. ดัชนีหุ้นทำนิวไฮ นักลงทุนแห่เก็งกำไร Call DW หุ้นรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้างคึกคัก ดักรัฐลุยโครงการลงทุน คาดยังดึงดูดนักลงทุนต่อเนื่อง ส่ง DW ชุดใหม่ 23 ตัว เสิร์ฟ 9 มี.ค. นี้ ชูอิงหุ้นได้ผลดีโครงการรัฐพรึ่บ ส่วน TRUE ยังแชมป์ซื้อขายสูงสุด

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นักลงทุนเข้าเก็งกำไรซื้อขาย DW ประเภทสิทธิในการซื้อ หรือ Call DW ในสัดส่วนสูงถึง 82.8% ของปริมาณการซื้อขาย DW ทั้งหมดที่เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,026.8 ล้านบาท คิดเป็น 1.9% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ ทั้งนี้ เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมีที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยสามารถทำระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือนที่ 1,619.77 จุด

สำหรับ DW ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร สัดส่วน 22.5% กลุ่มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 19.5% กลุ่มพลังงาน 16.8% โดย DW อ้างอิงหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุด 9.7% อันดับสองหุ้น บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) มีสัดส่วนการซื้อขาย 9.3% และอันดับสามหุ้น บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) มีสัดส่วนการซื้อขาย 8.5% โดยหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นที่มีความผันผวนของราคาสูงและมีปัจจัยบวกสนับสนุน ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนใน Call DW จำนวนมาก ในขณะที่ดัชนี SET50 ยังเป็นหลักทรัพย์อ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเดิม

ส่วนกรณีของหุ้น TRUE ยังมีประเด็นเตรียมรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEIF ในเดือนมี.ค. 58 สำหรับ TPIPL เตรียมรับรู้รายได้จากยอดขายปูนซิเมนต์และวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงประโยชน์จากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการลงทุนโครงการขนาดใหญ่และ ITD ซึ่งมีงานในมือและกำลังจะเซ็นสัญญารวมกันกว่า 3 แสนล้านบาท และมีโครงการเข้าร่วมประมูลในโครงการภาครัฐอีกมาก

นายบรรณรงค์ กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนใน DW เดือน ก.พ. 58 พบว่า นักลงทุนมีการปรับกลยุทธ์การซื้อขาย DW ตามสถานการณ์ตลาด โดยเข้าเก็งกำไร Call DW ในหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเช่น IRPC, PTT, PTTEP ตามทิศทางตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทำนิวไฮ แต่เมื่อตลาดเริ่มมีความไม่แน่นอนเช่นการรอดูผลการเจรจาหนี้ระหว่างกรีซกับสหภาพยุโรปที่ต้องมีข้อยุติก่อนแผนการช่วยเหลือทางการเงินของกรีซสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ. 58 รวมถึงแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ภายหลังเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแคบๆ ระหว่าง 1,590-1,620 จุด ส่งผลให้นักลงทุนปรับกลยุทธ์อีกครั้งโดยหันเก็งกำไรใน Call DW ที่อ้างอิงกับหุ้นที่ได้รับปัจจัยบวกในประเทศเป็นหลัก อย่างหุ้น ITD และTPIPL

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน ก.พ. ดัชนีหุ้นไทยกลับมาผันผวนอีกครั้งหลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งรายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงกระแสข่าวการเลื่อนประมูล 4G ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร DW ประเภทสิทธิในการซื้อ (Put DW) ที่อ้างอิงกับหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นหลัก เช่น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค (DTAC) และ
บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) รวมถึงเข้าซื้อ Put DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 เพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนอีกด้วย

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือน ก.พ. 58 มี DW ที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งสิ้น 889 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 706 รุ่นและ Put DW 183 รุ่น ครอบคลุมหลักทรัพย์อ้างอิง 100 ตัว โดยหลักทรัพย์บัวหลวงมีจำนวน DW สูงสุดในระบบ คิดเป็น 18.56% ของจำนวน DW ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในตลาดและมีส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 47.4% มียอดการถือครอง DW โดยนักลงทุนสูงสุดเช่นกัน รวมทั้งยังเป็นผู้ออกที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1

นายบรรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน โดยวันที่ 9 มี.ค.นี้ จะออก DW ชุดใหม่จำนวน 23 ตัว เข้าซื้อขายพร้อมกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ทั้งประเภท Call และ Put อ้างอิงหุ้น BDMS, BLAND, ITD, PTTGC, QH, SCC, TCAP, THCOM, TMB, TPIPL, VGI รวมถึงใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ประเภท Call อ้างอิงหุ้น BH โดย DW ทั้งหมดมีอายุประมาณ 6-7 เดือน

“DW ชุดใหม่นี้ออกมารองรับชุดเก่าที่กำลังจะหมดอายุ และบางตัวยังไม่หมดอายุแต่ออกมาเป็นทางเลือกให้นักลงทุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ ITD และ TPIPL ที่คาดว่ายังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่อง จากการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับผลดีจากโครงการลงทุนภาครัฐ รวมถึงหุ้น SCC ที่น่าจะได้รับความสนใจเช่นกัน” นายบรรณรงค์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น