ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงเช้าไปที่ 1,603.36 จุด เพิ่มขึ้น 0.22 จุด เปลี่ยนแปลง +0.01% มูลค่าการซื้อขาย 21,331.21 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,608.00 จุด และต่ำสุดที่ 1,602.43 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี มองว่า แม้ช่วงเช้าดัชนีสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ แต่ยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นแบบ sideway up ตามการปรับขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียในเช้าวันนี้ โดยการปรับขึ้นของตลาดจะเป็นการเก็งกำไรในหุ้นรายตัวที่มีประเด็นเฉพาะตัวมากกว่าการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งช่วงบ่ายอาจมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมา หลังจากราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลง 1.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความกังวลว่า วันนี้ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกหลังจากสัปดาห์ก่อนเปิดเผยออกมาว่า สต๊อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 4.9 ล้านบาร์เรล สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเช้านี้ก็ปรับลดลงไปกว่า -3.14% หรือประมาณ 1.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 51.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แนะนำสะสมหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลบวกต่อกลุ่มการบิน โรงแรม และการท่องเที่ยวอย่าง AAV BA NOK THAI AOT CENTEL ERW และ MINT พร้อมให้แนวต้านที่ 1,610-1,615 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,595-1,600 จุด
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดได้แก่
TPIPL ราคาล่าสุด 3.32 บาท ปรับบวก 0.06 บาท, GENCO ราคาล่าสุด 6.50 บาท ปรับบวก 0.15 บาท, IRPC ราคาล่าสุด 4.68 บาท ปรับบวก 0.20 บาท, RPC ราคาล่าสุด 1.37 บาท ปรับบวก 0.07 บาท และ DCON ราคาล่าสุด 2.66 บาท ปรับบวก 0.06 บาท