ตลท. เดินหน้าเข้าถึงผู้ออม จับมือ ธ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ร่วมเป็นพันธมิตรโครงการ Banker-to-Broker มุ่งเน้นความร่วมมือในการเพิ่มศักยภาพบุคลากรธนาคารด้านการออมการลงทุน (wealth management) ให้แก่ลูกค้า เพื่อขยายฐานการลงทุนผ่านสาขาธนาคารกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ให้ความสำคัญต่อการวางแผนการเงินและการลงทุน โดยจับมือกับธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ภายใต้โครงการ Banker-to-Broker หรือโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เน้นรณรงค์เพิ่มศักยภาพของบุคคลากรธนาคารด้าน wealth management เพื่อให้บริการด้านการวางแผนทางการเงินที่ครอบคลุมสินค้า และบริการในตลาดทุนแก่ลูกค้าของธนาคาร
“โครงการ Banker-to-Broker ได้เชื่อมต่อการทำงานระหว่างตลาดทุน และตลาดเงินเข้าด้วยกันในทุกมิติ ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากรในสาขาของธนาคาร รวมทั้งการต่อเชื่อมช่องทางบริการลงทุนผ่านระบบธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (internet banking) และบริการซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม การที่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เข้าร่วมเป็นพันธมิตร จะเป็นการเข้าถึงผู้ออมเงินกลุ่มใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการก้าวสู่การเป็นผู้ลงทุนที่มีคุณภาพ โดย ตลท. จะสนับสนุนการอบรมความรู้ด้าน wealth management และ investment products ให้แก่บุคลากรของธนาคารต่อเนื่องตลอดปี ทั้งนี้ ในด้านของผู้ออมเงินของธนาคารก็จะมีทางเลือกในการต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์การเงินของทางธนาคารที่ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า” นางเกศรา กล่าว
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) กล่าวว่า “ความร่วมมือในโครงการ Banker-to-Broker ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ความร่วมมือระหว่างธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ ตลท. ที่จะช่วยกระตุ้น และส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินผ่านการลงทุนในหุ้นเพิ่มมากขึ้น ธนาคารเห็นว่า โครงการ Banker-to-Broker เป็นโครงการที่ดี เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัทหลักทรัพย์แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เนื่องจากธนาคารมีฐานลูกค้าจำนวนมากที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์ และบริการในด้านการลงทุนที่หลากหลาย และยังเป็นการเพิ่มบริการของธนาคารให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยมีช่องทางการให้บริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านสาขาของธนาคารที่มีกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ และมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 10 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องต่อแผนกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทที่มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าของบริษัทในเครือ ดังนั้น ภายใต้การสนับสนุนของ ตลท. และธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ บริษัทหวังว่าจะสามารถสร้างนักลงทุนจากฐานลูกค้าเงินออม ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัทคือ การมีฐานของผู้ลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่ง ตลท. มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการให้ความรู้พื้นฐานเรื่องการลงทุนอย่างถูกวิธี และมีหลักการ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลการลงทุน เพื่อให้การลงทุนของนักลงทุนมีประสิทธิภาพ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า การมีทีมงานที่มีประสบการณ์ และความรู้ด้านธุรกิจหลักทรัพย์เป็นอย่างดี พร้อมด้วยศักยภาพ และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนของบริษัท เมื่อผนวกกับช่องทางที่ครอบคลุมผ่านสาขาธนาคารกว่า 120 สาขาทั่วประเทศ และบุคลากรที่พร้อมของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะทำให้ผู้ออม และผู้ลงทุนที่มาใช้บริการได้รับประโยชน์”
ทั้งนี้ ลูกค้าและนักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชีหุ้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร. Contact Center 0-2359-0000 หรือที่ www.lhbank.co.th เกี่ยวกับโครงการ Banker-to-Brokerโครงการส่งเสริมช่องทางการลงทุนผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ และช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือโครงการ Banker-to-Broker ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2554 เพื่อส่งเสริมการให้ความรู้ด้านการบริหารเงินส่วนบุคคล (wealth management) โดยครอบคลุมสินค้า และบริการในตลาดทุนให้กับผู้จัดการสาขาธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคาร ซึ่งในปัจจุบันได้ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 5 โดยมีธนาคารพาณิชย์ 10 แห่ง และบริษัทหลักทรัพย์ 10 แห่ง เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.เกียรตินาคิน ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.ธนชาต ธ.ทิสโก้ ธ.ซีไอเอ็มบี ธ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ บริษัทหลักทรัพย์ในเครือธนาคาร 10 แห่ง ได้แก่ บล.บัวหลวง บล.เคที ซีมิโก้ บล.กรุงศรี บล.เกียรตินาคิน บล.กสิกรไทย บล.ไทยพาณิชย์ บล.ธนชาต บล.ทิสโก้ บล.ซีไอเอ็มบี บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครอบคลุมสาขาของธนาคารพาณิชย์รวม 6,271 แห่งทั่วประเทศ