ตลท. สั่งโบรกฯ ทำบทวิเคราะห์ผลกระทบน้ำมันร่ว เพื่อให้เป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจลงทุน เน้นโฟกัสกรณีราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะมีผลกระทบต่อ บจ. ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันอย่างไรบ้าง และมี บจ. ที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ราคาน้ำมันลดลงอย่างไร ด้านซีอีโอ “บล.เมย์แบงก์ฯ” คาดนักลงทุนมั่นใจ ศก.ไทยปี 58 เชื่อส่งผลให้ดัชนีหุ้นปรับไปที่ 1,650 จุด โดยมีกลุ่มก่อสร้าง โทรคมนาคม และอาหารยังน่าสนใจ
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ รวมทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงมาก ซึ่งในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหุ้นกลุ่มพลังงานสัดส่วนที่สูง จึงเป็นปัจจัยกดดันต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะขณะนี้กำลังรอผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 / 2557 ที่จะประกาศออกมาในอีก 60 วัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการกดดันตลาดหุ้นในเชิงลบ
ดังนั้น จึงหารือกับสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เพื่อให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จัดทำข้อมูลวิจัยผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดยประเมินจุดราคาต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะมีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันอย่างไรบ้าง และมีบริษัทจดทะเบียนที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ราคาน้ำมันลดลงอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจ
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าแผนการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนต่างประเทศ (โรดโชว์) ปีนี้มีแผนโรดโชว์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ โดยจะนำบริษัทที่มีศักยภาพแม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติได้รู้จักบริษัทจดทะเบียนไทย
ส่วนวันที่ 26-27 มกราคม 2558 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จัดงาน SET Thai Corporate Day 2015 ภายใต้แนวคิด Thailand Asean’s Gateway to GMS ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ โดยจะนำบริษัทจดทะเบียนไทยกว่า 40 บริษัท ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 3.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นบริษัทที่มีธุรกิจ และการลงทุนและสาขาอยู่ในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนต่างประเทศ และเป็นการตอกย้ำว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเชิญนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน และปาฐกถา เพื่อร่วมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ด้าน นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 4 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาจากการบริโภค การลงทุน จากนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว รวมถึงภาคการส่งออกน่าจะขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลงมาก ลดแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนไทยและต่างชาติมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยมากขึ้น ส่งผลดีต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1,650 จุดในปีนี้ โดยหุ้นในกลุ่มก่อสร้าง โทรคมนาคม และอาหารยังน่าสนใจสำหรับการลงทุน