สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง เผยที่ปรึกษาการเงิน สรุปราคาขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด ที่ราคาหุ้นละ 0.10-0.13 บาทต่อหุ้น
นายชวลิต สาลีผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SGF แจ้งว่าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2558 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 13 มกราคม 58 ได้มีมติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.12 บาท ซึ่งอยู่ในช่วงระดับราคาการประเมินมูลค่าหุ้นโดยบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. นั้นบริษัทขอสรุปรายงานการประเมินมูลค่าหุ้น เมื่อวันที่ 7 มกราคม 58 โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้พิจารณาความเหมาะสมของมูลค่าหุ้นของบริษัทด้วยวิธีการต่างๆ จำนวน 6 วิธี
โดยที่ปรึกษาการเงินอิสระได้สรุปว่า วิธีปรับปรุงมูลค่าตามบัญชี และวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดเหมาะสมที่สุดในการประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทในครั้งนี้ เนื่องจากวิธีปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีจะสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของบริษัท ณ ปัจจุบัน และวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดสามารถสะท้อนถึงความสามารถ และศักยภาพของธุรกิจของบริษัทในอนาคต ดังนั้น มูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทจึงอยู่ระหว่าง 0.10-0.13 บาทต่อหุ้น
นายชวลิต สาลีผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SGF แจ้งว่าตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2558 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 13 มกราคม 58 ได้มีมติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.12 บาท ซึ่งอยู่ในช่วงระดับราคาการประเมินมูลค่าหุ้นโดยบริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. นั้นบริษัทขอสรุปรายงานการประเมินมูลค่าหุ้น เมื่อวันที่ 7 มกราคม 58 โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้พิจารณาความเหมาะสมของมูลค่าหุ้นของบริษัทด้วยวิธีการต่างๆ จำนวน 6 วิธี
โดยที่ปรึกษาการเงินอิสระได้สรุปว่า วิธีปรับปรุงมูลค่าตามบัญชี และวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดเหมาะสมที่สุดในการประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทในครั้งนี้ เนื่องจากวิธีปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีจะสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของบริษัท ณ ปัจจุบัน และวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดสามารถสะท้อนถึงความสามารถ และศักยภาพของธุรกิจของบริษัทในอนาคต ดังนั้น มูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทจึงอยู่ระหว่าง 0.10-0.13 บาทต่อหุ้น