บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี ภาวะตลาดหุ้นเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีก 7.8 จุด มาปิดที่ 1,529.42 มูลค่าการซื้อขาย 4.95 หมื่นล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นผู้ซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียว 2.1 พันล้านบาท นอกนั้นขายสุทธิทั้งสิ้นได้แก่ รายย่อย -1 พันล้านบาท ต่างชาติ -870 ล้านบาท พอร์ตโบรคเกอร์ -216 ล้านบาท
แนวโน้มวันนี้ ประเด็นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซีย กลับมากดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นโลกวันนี้ คาดมีน้ำหนักเชิงลบมากกว่ากระแสเชิงบวกจากดัชนีตลาดแรงงานสหรัฐฯ ดังนั้น เราคาดว่า SET จะพักตัวในวันนี้ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 3 วันติดต่อกันรวมกว่า 52 จุด
ในระยะกลาง เราคงมุมมองว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนไปจนถึงช่วงปลายเดือน เนื่องจากมีเหตุการณ์สำคัญที่จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลกหลายเหตุการณ์ (ตามรายละเอียดด้านล่าง)
กลยุทธ์วันนี้ เน้นการซื้อหุ้นเชิงรับ ปันผลสูง ได้แก่ INTUCH (คาด dividend yield ปี 57 เท่ากับ 5.8%) KGI (div. yield 8.2%), TCAP (div. yield 5%) AP (div. yield 6.5%)
วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวัน Coming of age
สอดคล้องต่อบทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มุมมองต่อตลาดด้วยระดับ “กลาง” เป็นวันที่ 6 แม้ว่าแนวโน้ม SET INDEX วันนี้จะซึมตัวลงสู่แนว 1,510-1,515 จุด จากแรงกดดันของกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT / PTTEP ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของสัปดาห์ 10.46% และ 9.22% ตามลำดับ เกิดแรงขายทำกำไรช่วงสั้นต่อประเด็นดังกล่าว อีกทั้งเงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันในวันศุกร์ ทำให้นักลงทุนภายในประเทศระมัดระวังต่อการลงทุน
ขณะที่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของรัสเซีย โดย Fitch Rating เป็นรายแรก และอาจเห็น S&P และ Moody’s ปรับลดอันดับตามมา แต่เรากลับเชื่อว่าประเด็นเสี่ยงดังกล่าวจะกดดันตลาดหุ้นไทยได้เพียงจำกัด แนวรับหลัก 1,480-1,500 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะประเด็นนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกรับรู้ และระมัดระวังต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมาโดยตลอด
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนที่ขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุด หรือสูงกว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้กลับมาทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายอีกครั้ง เมื่อ SET INDEX เริ่มย่อตัวลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย”
