“สรรพสามิต” ยอมรับช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปีภาษีเหล้าเบียร์หดหาย สะท้อน ปชช. ยังรัดเข็มขัดใช้จ่าย

“สรรพสามิต” เผยการปรับขึ้นภาษีน้ำมันดีเซลช่วยดันรายได้เข้ารัฐเพิ่ม 50,000 ล้านบาท ยอมรับช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปีภาษีเหล้าเบียร์หดหาย สะท้อนการใช้จ่ายประชาชน ที่ยังรัดเข็มขัดช่วง ศก. ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมปีนี้ยอดจัดเก็บภาษีสรรพสามิตปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งปกติช่วงเดือนธันวาคมเป็นเทศกาลรื่นเริง ยอดจำหน่ายสินค้าประเภทสุรา เบียร์ ยาสูบ จะมีมากกว่าปกติ แต่ปีนี้ยอดจัดเก็บภาษีทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนว่าประชาชนมีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยลง ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพของประชาชน

“เดิมคาดว่าเดือนธันวาคม ภาษีสุราเบียร์น่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 แต่ยอดที่เก็บได้จริงน่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนว่า ยอดการบริโภคลดลง โดยต้องรอดูช่วงเทศกาลต่อเนื่องทั้งตรุษจีน สงกรานต์อีกครั้งว่าภาษีจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ อีกทั้งการประชุมของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติได้มีการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ และเห็นตรงกันที่จะห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณสวนสาธารณะ สถานีขนส่ง ท่าเรือโดยสาร และบนรถไฟ ซึ่งน่าจะเริ่มใช้ปีหน้า ทำให้ภาษีหายไปอีกส่วนหนึ่ง” นายสมชาย กล่าว

ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายน ภาษีเบียร์ต่ำกว่าปีก่อน 1,000 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้า 1,400 ล้านบาท ส่วนภาษีสุราต่ำกว่าปีก่อน 2,000 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้า 751 ล้านบาท

นายสมชาย กล่าวอีกว่า แม้ยอดรวมการจัดเก็บรายได้ 2 เดือนของกรมยังต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่แนวโน้มเดือนธันวาคมเริ่มดีขึ้น เนื่องจากมีรายได้จากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังจากมีการปรับขึ้นอีกลิตรละ 2.50 บาท โดยภายในปีงบ 2558 น่าจะมีรายได้เข้ามาเพิ่มประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่นอกเหนือจากเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิม 420,000 ล้านบาท

อีกทั้งภาษีรถยนต์ที่เคยลดลงต่อเนื่อง โดยเดือนพฤศจิกายนลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนกว่า 1,600 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 1,000 ล้านบาท ก็น่าจะขยายตัวดีขึ้น หลังจากยอดขายรถยนต์ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ล่าสุด ออกมาดีกว่าที่ภาคเอกชนคาดการณ์เอาไว้ โดยมียอดกว่า 40,000 คัน ซึ่งน่าจะมีเม็ดเงินภาษีทยอยเข้ามาตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้รายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายก็ยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง และเข้มงวดการปราบปรามการลักลอบสินค้าหนีภาษีในพื้นที่เป้าหมายต่อไป