นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง "พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่" ว่า จากการสำรวจพบว่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 น่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 117,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีการใช้จ่ายประมาณ 111,700 ล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายของคนในกรุงเทพฯ ประมาณ 57,000 ล้านบาท คนต่างจังหวัดประมาณ 60,500 ล้านบาท
โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนใหญ่ ร้อยละ 30 จะเป็นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว รองลงมาเป็นการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ซื้อสินค้าคงทน และการเลี้ยงสังสรรค์ ขณะที่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปัญหาการจราจร
ทั้งนี้ บรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ค่อนข้างคึกคักกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากนโยบายภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งการเพิ่มวันหยุดให้ยาวนานขึ้น และการให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษี และการเร่งเบิกจ่ายเงินให้ชาวนา ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น และการจัดงานลดราคาสินค้าช่วงปีใหม่ของรัฐบาล ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง ทำให้ภาระค่าครองชีพโดยรวมลดลง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ปีนี้ค่อนข้างคึกคัก และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 2.5 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2
โดยพฤติกรรมการใช้จ่ายส่วนใหญ่ ร้อยละ 30 จะเป็นการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว รองลงมาเป็นการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ซื้อสินค้าคงทน และการเลี้ยงสังสรรค์ ขณะที่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้แก่ การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปัญหาการจราจร
ทั้งนี้ บรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ค่อนข้างคึกคักกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากนโยบายภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งการเพิ่มวันหยุดให้ยาวนานขึ้น และการให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษี และการเร่งเบิกจ่ายเงินให้ชาวนา ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น และการจัดงานลดราคาสินค้าช่วงปีใหม่ของรัฐบาล ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง ทำให้ภาระค่าครองชีพโดยรวมลดลง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ปีนี้ค่อนข้างคึกคัก และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 2.5 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2