“วายแอลจี” ประเมินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ถูกร่นเวลาให้เร็วขึ้นจากแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ชี้ใกล้วันหยุดยาวถือครองทองคำมากไปอาจเสี่ยง
วรุต รุ่งขำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคาราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำถูกทั้งปัจจัยบวกและลบเข้ามากดดันการเคลื่อนไหว เช่น การส่งสัญญาณกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ออกมาระบุว่า อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าปกติ ซึ่งจะตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในช่วงเมษายน 2558 ทำให้นักลงทุนคาดว่า จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณช่วงกลางปีหน้า
ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางส่วนยังเข้าสะสมทองคำ หลังสกุลเงินรูเบิล รัสเซีย มีการอ่อนค่าลงอย่างมาก จนทำให้เกิดการคาดการณ์กันว่า ทางการรัสเซียอาจไม่สามารถรักษาระดับเครดิตที่มีเสถียรภาพได้ จนทำให้นักลงทุนวิตกต่อเศรษฐกิจโลกที่อาจออ่นตัวลง และทำให้นักลงทุนเลือกช้อนซื้อทองคำเมื่อมีการอ่อนตัวลง
โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือ ตัวเลขเศรษฐฝั่งสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขจีดีพี ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการ และยอดขายบ้านใหม่ ซึ่งถ้าออกมาดีจะแสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น นั่นหมายถึงการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยย่อมเกิดขึ้นตามไปด้วย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน คาดว่าราคาทองคำในช่วงนี้ยังแกว่งตัวในกรอบที่ไม่กว้างมากนัก โดยประเมินในส่วนแรวรับ 1,180-1,160 เหรียญ/ออนซ์ แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะออ่อนตัวลงมา แต่ราคาทองคำยังแข็งแกร่งอยู่เหนือแนวรับ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ ทำให้มองว่าหากราคาอ่อนตัวลงมา นักลงทุนสามารถเข้าไปซื้อในแนวรับบริเวณโซนดังกล่าวได้ ขณะที่เมื่อราคาดีดตัวขึ้น ยังคงมีแนวต้านสำคัญ 1,240-1,260 เหรียญ/ออนซ์
นอกจากนี้ ต้องระวังแรงขายทำกำไรที่ออกมาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ช่วงนี้มีแนวโน้มที่สดใส ทำให้นักลงทุนที่ถือทองคำไว้ควรแบ่งทองคำออกมาขาย เพราะยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุด การถือทองคำในจำนวนที่มากอาจหมายถึงความเสี่ยงที่มีสูงขึ้น