“โฆสิต” ชี้เศรษฐกิจไทยปี 2558 ยังโตต่ำกว่าศักยภาพ คาดโตได้แค่ร้อยละ 3-4 เหตุยังถูกผลกระทบจากโครงการประชานิยมที่ยังคงกดดันการบริโภค และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2558 จะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 3-4 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำกว่าศักยภาพของไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโครงการประชานิยมที่ยังคงกดดันการบริโภค และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนสูง แต่ผลกระทบจากโครงการประชานิยมในช่วงปี 2558-2559 จะทยอยเริ่มลดลง
หลังจากนั้นคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่งอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะกลับมาปกติ ดังนั้น ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคือ การใช้จ่ายของภาครัฐ และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
ส่วนข้อเสนอที่ให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายโฆสิต กล่าวว่า แม้ กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยคงไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะการบริโภคถูกกดดันจากนโยบายประชานิยม ควรใช้นโยบายการคลังมาดูแลเศรษฐกิจมากกว่า หากอัตราดอกเบี้ยต่ำเกินไปจะส่งผลให้ประชาชนไม่ออมเงิน และส่งผลต่อปริมาณเงินออมในระบบลดลงได้
“สำหรับสินเชื่อในปี 2558 จะขยายตัวเท่าไหร่นั้น คงมองลำบาก แต่จะโตสอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะโตร้อยละ 3-4″ นายโฆสิต กล่าว
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตามองในปีหน้ามาจากปัจจัยต่างประเทศคือ การที่เศรษฐกิจจีนมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าที่คาด ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมามีความเข้มแข็งมากขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยไปจีนได้ และต้องติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางกลุ่มประเทศจี 3 คือ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่มีนโยบายแตกต่างกันส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินทุนเคลื่อนย้ายในปีหน้าให้มีความผันผวน
ขณะที่ผลกระทบจากค่าเงินรูเบิลของรัสเซีย อ่อนค่าลงต่อประเทศไทยนั้นคงมีน้อย อยู่ในวงจำกัด มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่จำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยลดลงเท่านั้น