บอร์ด “เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์” ไฟเขียวซื้อหุ้นจาก “ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์” 222,222 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.22% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนชำระแล้ว 1,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ มูลค่ารวม 33.08 ล้านบาท นำร่องขยายธุรกิจการขนส่งด้านระบบลอจิสติกส์ในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่อขุดเจาะน้ำมันดิบ “กิตติ พัวถาวรสกุล” มั่นใจการถือหุ้น “ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์” ช่วยเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรที่มีศักยภาพ เสริมสร้างการเติบโตของธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งรองรับการขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียนที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 7/2557 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์ จำกัด 222,222 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 22.22% ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนชำระแล้ว 1,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในราคารวมประมาณ 33,080,000 บาท (ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ 33.08 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยแหล่งเงินทุนนำมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
ปัจจุบัน บริษัท ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการจัดการระบบลอจิสติกส์ (Logistics Provider) โดยจดทะเบียนจัดตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีทุนจดทะเบียน 1,000,000 เหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ แบ่งออกเป็นทุนที่เรียกชาระแล้ว 1,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (หุ้นสามัญ 1,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์)
สำหรับประโยชน์จากการขยายธุรกิจครั้งสำคัญในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด รวมถึงเพื่อให้ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และความรู้ต่างๆ ในการจัดการขนส่งทางด้านระบบลอจิสติกส์ในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท่อขุดเจาะน้ำมันดิบ อีกทั้งถือเป็นการเพิ่มเครือข่ายพันธมิตรที่มีศักยภาพทางด้านการให้บริการในธุรกิจการจัดการระบบลอจิสติกส์ (Logistics Provider) และการให้บริการจัดการระบบลอจิสติกส์ เพื่อเสริมสร้างการเติบโต และรองรับการขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน
“คณะกรรมการบริษัทได้ประเมินแล้วมีความเห็นว่า การได้มาของหุ้น “ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์” เป็นรายการที่เป็นประโยชน์ในอนาคต เนื่องจากบริษัทดังกล่าวยังมีลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลก ดังนั้น การลงทุนในครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคตของบริษัทฯ แต่เพียงเท่านั้น แต่ถือเป็นเกียรติของ NCL ที่ได้รับความไว้วางใจจาก “ทรานส์ออฟชอร์ โลจิสติกส์” ในการทำธุรกิจร่วมกัน เพราะนั่นหมายถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการทำงานของ NCL ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้จะต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ให้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สิน และผลกำไรอย่างต่อเนื่องในอนาคต ที่สำคัญเป็นการเพิ่มช่องทางในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจกลุ่มใหม่ๆ อีกทั้งยังสามารถสร้างเครือข่ายพันธมิตรในธุรกิจการให้บริการจัดการระบบลอจิสติกส์ โดย NCL มีแผนจะขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายกิตติ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บริษัท คัสตอม เอ็กซ์เพรส จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนผ่านพิธีการศุลกากร เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ โดยมีทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท โดย NCL ถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 99% ของทุนจดทะเบียน แหล่งเงินทุนที่ใช้นำมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมของธุรกิจในปีนี้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทยังสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2556 ไว้ได้