xs
xsm
sm
md
lg

เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ มั่นใจซื้อ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” สร้างรายได้ และต่อยอดธุรกิจยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ เผยทุ่มงบ 4.5 พันล้าน ซื้อ “ดีน แอนด์ เดลูก้า” หวังต่อยอดธุรกิจ แจงธุรกิจอาหารมาร์จิ้นดี และดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมสูงทั้งในอเมริกา และประเทศแถบเอเชีย เชื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน และต่อยอดธุรกิจอย่างคุ้มค่า

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PECE เปิดเผยว่า บริษัทซื้อแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มกูร์เมต์ระดับโลกอย่าง “ดีน แอนด์ เดลูก้า” จากบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า โฮลดิ้งส์ อิงค์ ด้วยมูลค่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 4.55 พันล้านบาท ซึ่งรายได้จากธุรกิจอาหารนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีแหล่งรายได้ที่มั่นคง และมีความผันผวนน้อยกว่าแก่ธุรกิจหลักคืออสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การที่ PECE เลือกแบรนด์ระดับโลกอย่าง ดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ที่เสริมสร้างสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยอีกครั้ง ด้วยวิสัยทัศน์ที่ยั่งยืน เพราะดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นแบรนด์ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในอเมริกา และประเทศแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ เป็นต้น

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี กล่าวต่อว่า “จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของเพซที่คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อเรามองหาธุรกิจที่จะมาต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ดีน แอนด์ เดลูก้า จึงเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เรานึกถึง เราไม่ได้ต้องการซื้อธุรกิจที่มีศักยภาพเฉพาะวันนี้ แต่ต้องการธุรกิจที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากแบรนด์ได้ ซึ่ง ดีน แอนด์ เดลูก้า ตอบโจทย์ธุรกิจที่เพซมองหา เนื่องจากเป็นแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เมต์ชั้นนำของโลก มีจุดเด่นที่ความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์และชื่อเสียงมายาวนานเกือบ 40 ปี ซึ่งแบรนด์ระดับไอคอนเช่นนี้มีความได้เปรียบ และโอกาสสูงมากในการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดระดับโลก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นที่ไม่มีความแข็งแกร่งเท่า”

โดยจากการนโยบายการขายลิขสิทธิ์แบรนด์ให้แก่ผู้ประกอบการในแต่ละประเทศ รวมถึงการลงทุนในร้านใหม่ๆ ของ PECE เองจะทำให้สามารถขยายดีน แอนด์ เดลูก้า ได้อีกหลายร้อยสาขาภายใน 2 ปี จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 42 สาขา และจะขยายจาก 8 ประเทศ ไปสู่ 15 ประเทศภายใน 2 ปีด้วยเช่นกัน

“นอกจากมูลค่าของแบรนด์ การเป็นเจ้าของ ดีน แอนด์ เดลูก้า ยังหมายถึงสิทธิในการวางแผนธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ซึ่งธุรกิจอาหารค่อนข้างมีผลตอบแทน และมาร์จิ้นสูงเมื่อเทียบกับมูลค่าการลงทุน แต่การเป็นเจ้าของแบรนด์ที่มีระดับถือเป็นมูลค่าเพิ่ม และยังทำให้บริษัทลดต้นทุนมหาศาลในการสร้างแบรนด์เอง การเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง ดีน แอนด์ เดลูก้า จะช่วยให้ PECE มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติทั่วโลกรู้จัก PECE ในฐานะเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ PECE สามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืน และต่อยอดธุรกิจอย่างคุ้มค่า” นายสรพจน์ ย้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น