นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่ายดัชนีทรงตัวในกรอบแคบ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 17 ธันวาคม 2557 ปิดช่วงเช้าไปที่ 1,476.67 จุด เพิ่มขึ้น 14.93 จุด เปลี่ยนแปลง +1.02% มูลค่าการซื้อขาย 29,001.32 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,478.81 จุด และต่ำสุดที่ 1,461.33 จุด

บล. ฟินันเซีย ไซรัส ระบุดัชนีเริ่มทรงตัวได้บ้างแล้ว ทำให้คาดว่าจะมีลุ้นโอกาสแกว่งตัวด้านบวก พร้อมเตือนตลาดยังคงมีความผันผวนของตลาดในช่วงบ่าย โดยนักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายกาเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ กนง. ว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ และค่ำวันนี้ ยังต้องติดตามถ้อยแถลงหลังการประชุมเฟดด้วยว่า จะมีท่าทีต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเรื่องของอัตราดอกเบี้ยอย่างไร

ทั้งนี้ แนะนำที่ระดับดัชนีบริเวณนี้ก็สามารถซื้อสะสมได้ อีกทั้งยังคาดว่าแรงซื้อส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเรื่องของเม็ดเงิน LTF, RMF ช่วงท้ายปีด้วย โดยเฉพาะตั้งแต่พรุ่งนี้ (18-21 ธ.ค.) จะมีงาน “มหกรรมมีใช้ตอนแก่ด้วย LTF-RMF” จัดโดย ตลท. ซึ่งน่าจะกระตุ้นแรงซื้อกองทุนฯ ให้มีเข้ามาเพิ่มเติมอีกในสัปดาห์หน้าได้ ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดร่วงลงต่อ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดีนัก แต่ตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดบวกหลังราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวบ้าง ก็ช่วยหนุนให้ตลาดเอเชียหลายแห่งเริ่มจะมีจังหวะบวกได้บ้าง คาดว่าช่วงบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,456-1,452 จุดแนวต้าน 1,476-1,486 จุด

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย แนะนำนักลงทุนควรทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปรับฐาน โดยคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะฟื้นตัวได้ในช่วงต้นปีหน้าจากปัจจัยบวกคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาได้ในช่วงปีใหม่นี้ พร้อมแนะนำในระยะสั้นในช่วงที่หุ้นมีโอกาสปรับฐาน โดยแนะนำหุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง INTUCH ที่ได้รับอานิสงส์จากการประมูล 4G และกลุ่มธนาคาร คือ SCB เนื่องจากมีความสามารถในการทำกำไรสูง กลุ่มรับเหมาก่อสร้างอย่าง CK และ SEAFCO เนื่องจากปีหน้าจะมีการสร้างรถไฟฟ้าโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกหรือไม่ รวมถึงสินค้าเกษตรของไทยที่น่าจะปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันด้วย

สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTT ราคาล่าสุด 315.00 บาท ปรับบวก12.00 บาท, KBANK ราคาล่าสุด 225.00 บาท ปรับลง 3.00 บาท, TRUE ราคาล่าสุด 11.60 บาท ปรับบวก 0.10 บาท, PTTEP ราคาล่าสุด 106.50 บาท ปรับบวก 5.50 บาท และ ADVANC ราคาล่าสุด 243.00 บาท ปรับบวก 3.00 บาท