ผู้จัดการ ตลท. เปิดโต๊ะแจงสาเหตุหุ้นไทยร่วงแรงวันนี้เกิดจากแรงขายหุ้นพลังงาน ยันไม่มีปัจจัยผิดปกติ ส่วนประเด็นข่าวลือต่างๆ ไม่มีมูลความจริง เตรียมหารือกับโบรกเกอร์ และนักวิเคราะห์เพื่อปรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้น พร้อมส่งสัญญาณปรับมูลค่าตลาดรวมใหม่ ด้านภาวะตลาดปิดลบ 36 จุด มูลค่าซื้อขายทะลุแสนล้าน สูงสุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่มีการก่อตั้งตลาดหุ้นไทย และเกือบต้องใช้มาตรการ Circuit Breaker อีกครั้ง
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในวันนี้ โดยระบุว่า เป็นผลมาจากแรงขายหุ้นพลังงาน ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลงแรง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ และกองทุน อย่างไรก็ตาม เมื่อดัชนีฯ ปรับตัวลงลึกมากจนเกิดภาวะขายมากเกินไป ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย
โดยในส่วนของข่าวลือที่เกิดขึ้นนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการตรวจสอบไปยังโบรกเกอร์ต่างๆ ซึ่งพบว่า เป็นเพียงแค่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
“ที่หุ้นลงแรงวันนี้มาจากแรงขายหุ้นพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันปรับลดลง และเป็นการร่วงลงตามภูมิภาค แต่ก็จะเห็นว่าเมื่อดัชนีฯ ลงมากเกินไปก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงท้ายตลาด ส่วนข่าวลือที่เกิดขึ้นเราก็ตรวจสอบ แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ ไม่มีมูลความจริง”
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตรียมหารือกับโบรกเกอร์ และนักวิเคราะห์เพื่อปรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้น หลังจากดัชนีปรับตัวลดลงมาพอสมควร เป็นจุดที่นักวิเคราะห์อาจต้องพิจารณามูลค่าของตลาดอีกครั้งว่า เป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการลงทุนหรือไม่ โดยมองว่ามีหุ้นหลายตัวที่จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
นางเกศรา กล่าวว่า นักลงทุนต่างชาติไม่ได้ขายหุ้นไทยแบบผิดปกติ โดยเป็นการขายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย ทำให้หลายตลาดปรับลดลงในระดับใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ ดัชนีที่ปรับลดลงมาถือเป็นเรื่องดีที่มีการปรับฐาน จากก่อนหน้านี้ที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไปจนหลายฝ่ายมองว่าหุ้นไทยค่อนข้างแพง
ทั้งนี้ ถ้าย้อนกลับไปเดือนก่อนที่ตลาดร้อนแรงมาก ดัชนีฯ ปรับสูงขึ้นจนทุกคนมองว่าค่อนข้างแพง ตอนนี้ก็เชื่อว่าจะมีการกลับมาดูมูลค่าตลาดฯ ใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็จะมีการหารือกับโบรกเกอร์ และนักวิเคราะห์ในเรื่องนี้ ซึ่งก็แนะนำนักลงทุนมือใหม่ให้ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลและทำการบ้านมากขึ้นก่อนลงทุน
สำหรับความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอดวันนี้ผันผวนอย่างหนัก โดยเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,376.00 จุด ลดลง 138.95 จุด หรือ 9.17% ก่อนจะดีดกลับขึ้นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายปิดตลาดที่ 1,478.49 จุด ลดลง 36.46 จุด มูลค่าการซื้อขายมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับแต่การก่อตั้งตลาดทุนไทย คือสูงถึง 102,662 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยร่วงไปรวมกว่า 119 จุด นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า นอกจากปัจจัย เรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ลดลงอย่างหนักแล้ว ยังมีกระแสข่าวลือเดิมๆ ที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ที่สร้างความกังวลมาตลอดทั้งสัปดาห์ก่อน
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลงอย่างหนักใกล้แตะ 10% ในวันนี้ เกือบทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องงัดมาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) มาใช้ ซึ่งปกติมาตรการดังกล่าวจะใช้ก็ต่อเมื่อดัชนีลดลงถึง 10% โดยจะหยุดซื้อ-ขายชั่วคราว เป็นเวลา 30 นาที
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยนำมาตรการ Circuit Breaker ออกมาใช้แล้ว 3 ครั้ง คือเมื่อ วันที่ 19 ธันวาคม 2549 หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการกันสำรองร้อยละ 30 ทำให้นักลงทุนต่างชาติตื่นตระหนก ส่วนครั้งที่ 2 และ 3 เกิดเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ