“จรัมพร” แนะนักลงทุนอย่าตกใจ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก คาดไม่รุนแรง

บิ๊ก ตลท. แนะนักลงทุนไทยอย่ากังวล พ.ร.บ.กฎอัยการศึก ตลาดหุ้นไทยจะยังคงเปิดทำการซื้อขายตามปกติ ยกเว้นแต่จะมีเหตุการร้ายแรงที่มีนัยสำคัญจึงจะปิดทำการซื้อขาย เพราะเคยผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาแล้ว ชี้ถือเป็นโอกาสการลงทุน หากหุ้นดิ่งเกินปัจจัยพื้นฐาน ส่งผลดีในการลงทุนระยะยาว

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหุ้นไทย หรือ ตลท.กล่าวว่า จากกรณีประกาศกฎอัยการศึกของ ผบ.เหล่าทัพ เมื่อเวลา 03.00 น ของวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนบ้าง โดยในช่วงแรกทันทีที่เปิดตลาดเกิดแรงเทขายจำนวนมาก โดยดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงไปกว่า 20 จุด ซึ่งตลาดหุ้นเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจะเกิดความผันผวนต่อตลาดหุ้น แมจะต่างกรรมต่างวาระกัน ซึ่งขณะนี้สัดส่วนของนักลงทุนในขณะนี้เปรียบเทียบกับสมัยก่อน มีจำนวนที่ต่างกันมาก เพราะมีจำนวนนักลงทุนรายย่อยเข้ามามากขึ้น ส่วนมุมมองของนักลงทุนต่างชาตินั้นอาจจะไม่เหมือนเดิม ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าดัชนีหุ้นจะติดลบไปกว่า 20 จุด แต่ก็ไม่ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนมากนัก ซึ่งนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนก็ได้ส่วนลดจากการปรบตัวลงของตลาดหุ้นไปในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาลงทุนโดยมีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาสุทธิแล้วกว่า  30,000 ล้านบาท หากเทียบกับปีที่แล้วที่เกิดวิกฤตการเมืองในช่วงแรก เงินใหลออกไปประมาณ 200,000 ล้านบาท

“ตลาดหุ้นไทยยังคงสามารถทำการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตามปกติ แม้ว่าทางทหารจะประกาศกฎอัยการศึกออกมา ซึ่งทาง ตลท.จะมีมาตรการเตรียมพร้อมรองรับกรณีที่เหตุการบ้านเมืองไม่ปกติ และคาดว่าจะไม่มีความรุนแรงอะไรที่น่ากังวล”

ในส่วนของระดับราคาดัชนี SET INDEX ที่เกิดความผันผวนจากความกังวลต่อ พ.ร.บ.กฎอัยการศึกที่เกิดขึ้น อาจทำให้มีราคาขึ้นลงในแต่ละหุ้นที่แตกต่างกัน โดยทางตลาดหุ้นจะมีการหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราวกรณี (Circuit Breaker) กรณีที่สภาวะการซื้อขายมีความผันผวนรุนแรง ราคาหลักทรัพย์โดยรวมเปลี่ยนแปลงลดลงมาก เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราว และราคาหุ้นในแต่ละตัวก็จะมีเพดานราคาที่จะเป็นจุดตัดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยจะยังคงเปิดทำการซื้อขายตามปกติ ยกเว้นแต่จะมีเหตุการร้ายแรงที่มีนัยสำคัญจึงจะปิดทำการซื้อขาย ทั้งนี้ ขอให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก ขอให้มองการลงทุนในระยะยาว พิจารณาจากหุ้นตัวนั้นๆ ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ้งถ้าหากหุ้นปรับราคาลดลงมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน ในระยะยาวอาจส่งผลดีต่อนักลงทุนในหุ้นนั้นๆ ได้