“เสนาฯ” ขยับการลงทุนปี 58 รับแนวโน้มกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว วางเป้าผุด 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท คาดรายได้และยอดขายปี 58 สูงขึ้นกว่าปี 57 เผยได้อานิสงส์รับรู้รายได้พิเศษจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปส์อีก 3% ต่อปี สบช่องดอกเบี้ยขาลง เล็งออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท ล็อกต้นทุน
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทในปี 2558 ว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานวางเป้ารายได้ไว้ประมาณ 3,500-4,000 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 57 ที่วางรายได้ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 9 โครงการ มีมูลค่ายอดขายรอรับรู้รายได้ 800 ล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอนในปัจจุบันที่ 1,890 ล้านบาท แบ่งเป็นการรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จำนวน 1,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมีการทยอยรับรู้ไปถึงปี 2559
ในส่วนของยอดขายบริษัทตั้งเป้า 3,500 ล้านบาท มากกว่าปีนี้ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการพิจารณาถึงแนวโน้มกำลังซื้อเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้าจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มดีขึ้น พร้อมกับมีแผนเปิดโครงการใหม่เพิ่ม 10 โครงการ มูลค่ารวม 8,000-9,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าโครงการเหลือขายอีก 4,480 ล้านบาท
นายสุธรรม โอฬารกิจอนันต์ ผู้อำนวยการจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ฯ กล่าวเสริมว่า ในปี 58 บริษัทคาดว่าจะมีอัตรากำไรเพิ่มสูงกว่า 15% เนื่องจากในปีหน้าจะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากจำหน่ายไฟฟ้าของโครงการโซลาร์รูฟท็อปส์ 750 กิโลวัตต์ ในช่วงไตรมาส 2 โดยจะมีกำไรพิเศษเข้ามาราว 6 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้โครงการโซลาร์รูฟท็อปส์ 750 กิโลวัตต์ บริษัทได้ใช้พื้นที่หลังคาโกดังของบริษัทที่ซอยสุขุมวิท 50 จำนวน 75% ของพื้นที่หลังคา 16,000 ตารางเมตร ติดตั้งแผงโซลาร์ โดยบริษัทได้ทำสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าต่อการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นระยะเวลา 25 ปี
“ช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า เราก็จะมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟเข้ามาช่วยหนุนอัตรากำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้น ก็คาดว่าจะสูงกว่า 15% เพราะมีกำไรเพิ่มเข้ามาปีละ 6 ล้านบาท ก็ช่วยเพิ่มอัตรากำไรสุทธิได้ราวๆ 3% ต่อปี แต่ปีหน้าคงไม่ถึง 6 ล้านบาท เพราะขายไฟไม่เต็มปี ถ้าเป็นภาพรวมปีหน้าอัตรากำไรก็คงมากกว่าปีนี้ ที่ 9 เดือนเรามีอัตรากำไรสุทิอยู่ที่ 14.76% ก็เป็นระดับที่สูงกว่าสิ้นปีก่อนที่ 13%” นายสุธรรม กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการซื้อที่ดิน โดยเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท สำหรับการซื้อที่ดินใหม่เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต และยังมีการวางแผนที่จะออกหุ้นกู้ระยะยาว 2-3 ปี มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 หลังจากบริษัทได้ทำการจัดอันดับเรตติ้งกับทริสเรทติ้ง ซึ่งหุ้นกู้ของบริษัทได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ในระดับ B- ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ระยาวในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้านั้น บริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินที่ได้มาไว้ใช้สำหรับการซื้อที่ดิน การพัฒนาโครงการ การใช้คืนเงินกู้สถาบันการเงิน และการใช้คืนตั๋วแลกเงินระยะสั้น
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่ารายได้ และกำไรจะโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ซึ่งปรับตัวขึ้นโดยมีรายได้รวม 688.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199.29 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% และกำไรสุทธิ 120.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.85 ล้านบาท หรือคิดเป็น 99% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจรายได้ในปีนี้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้