ปธ.บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแผนงานปี 2558 มุ่งสู่ Digital Exchange เน้นการพัฒนาระบบเทรด พร้อมตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการซื้อขายเป็น 52,000 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มมาร์เกตแคปจากหุ้นไอพีโอเป็น 2.5 แสนล้าน และเพิ่มจำนวนผู้ลงทุนใหม่อีก 95,000 ราย และเพิ่มสัญญาการซื้อขายตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็น 190,000 สัญญาต่อวัน
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า แผนงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2558 ตั้งเป้าหมายให้ตลาดหลักทรัพย์เติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มุ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ดิจิตอล หรือ Digital Exchange เพื่อให้สอดคล้องต่อนโยบายดิจิตอล อีโคโนมี ของรัฐบาล และรองรับฐานธุรกิจใหม่
ทั้งนี้ ตลท. จะพัฒนาระบบการซื้อขาย และในส่วนของระบบชำระราคาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล พัฒนาสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าให้มีมากขึ้น และสามารถซื้อขายในสกุลอื่นๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้เกิดช่องทางการซื้อขายที่หลากหลาย และพร้อมร่วมกับตลาดทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2558 ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าตลาดรวมจากหลักทรัพย์เข้าใหม่ (ไอพีโอ) รวม 250,000 ล้านบาท และมูลค่าระดมทุนเพิ่มใน ตลท.อีก 130,000 ล้านบาท โดยเน้นเพิ่มบริษัทจดทะเบียนใหม่ ใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ ขนส่งและอลจิสติกส์ การท่องเที่ยวและสุขภาพ พลังงานทางเลือก เกษตรและอาหาร รวมถึงการรับบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พร้อมกันนี้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2563 จะเพิ่มมูลค่ามาร์เกตแคป เป็น 30 ล้านล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 15 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ จะเพิ่มปริมาณการซื้อขายเป็น 52,000 ล้านบาทต่อวัน จากปีนี้อยู่ที่ 40,000 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มจำนวนผู้ลงทุนใหม่อีก 95,000 ราย จากปีนี้ที่ 9 เดือนแรก มีนักลงทุนหน้าใหม่แล้ว 82,000 ราย สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปี จำนวน 80,000 ราย และเพิ่มสัญญาการซื้อขายตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็น 190,000 สัญญาต่อวัน
นางเกศรา กล่าวว่า ตลท.มีแผนศึกษาเตรียมพร้อมเพื่อลดระยะเวลาในการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ให้สามารถดำเนินการได้ภายใน 2 วัน (T+2) จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 วันทำการ (T+3)
