ตลาดฯ ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนทราบผลการประชุมโอเปก

หุ้นปิดลบ 5.80 จุด เจอแรงเทขายไม่ผ่าน 1,600 จุด คาดได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ก่อนทราบผลการประชุมโอเปกในวันพรุ่งนี้ เผยมีโอกาสเห็นดัชนีฯ ทะลุ 1,600 จุดได้ ในระยะสัปดาห์หน้า

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,591.00 จุด ลดลง 5.80 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.36% มูลค่าการซื้อขาย 60,595.48 ล้านบาท โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,599.73 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,589.65 จุด

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยเคลื่อนไหวใกล้แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,600 จุด ก่อนปรับตัวลงตามแรงขายหุ้นขนาดกลาง-ขนาดเล็ก ที่เก็งกำไรมาก่อนหน้า เช่น CGD เป็นต้น

ประกอบกับนักลงทุนเลือกลงทุนหุ้น Laggard Play รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มโรงพยาบาล ที่นักลงทุนมองเห็นโอกาสของหุ้น 2 กลุ่มนี้ในการถือระยะยาวได้ แต่ดัชนีฯ ก็ได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานก่อนทราบผลการประชุมองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) ในวันพรุ่งนี้ว่า จะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่ หากที่ประชุมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงจะเป็นปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มนี้กลับมายืนแดนบวกได้อีก

สำหรับแนวโน้มของตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวเช่นเดียวกับวันนี้ ซึ่งก็มีโอกาสเห็นดัชนีฯ ทะลุ 1,600 จุดได้ในระยะสัปดาห์หน้า แต่ต้องอาศัยข่าวเชิงบวกหนุน ทั้งปัจจัยภายในประเทศ กับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะกล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในสิ้นปีนี้ถึงปีหน้าอย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ สามารถแกว่งตัวในกรอบจำกัดได้เช่นกัน เพราะขาดปัจจัยสนับสนุนจากต่างประเทศ เนื่องจากพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) ตลาดการลงทุนของต่างประเทศปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้ดัชนีฯ ขาดประเด็นหนุนสำคัญไป ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ทยอยซื้อ โดยประเมินแนวรับที่ 1,584-1,580 จุด และแนวต้านที่ 1,600-1,602 จุด