นักวิเคราะห์ บ.วายแอลจีฯ ประเมินว่าราคาทองคำน่าจะดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงทดสอบบริเวณแนวรับ 1,190-1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้นโดยหาจังหวะทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไป และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
วายแอลจี วิเคราะห์ว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลดลง 0.40% สู่ระดับ 5.6% ขณะที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลดลง 0.25% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการตัดสินใจที่เหนือความคาดหมายของนักลงทุนในตลาดทองคำ ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า อุปสงค์ทองคำในจีนอาจจะพุ่งขึ้นในอนาคต ส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนได้หันมาสนใจมาตรการกระตุ้นโดยรวมเพิ่มขึ้น และเปิดกว้างรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น รวมทั้งการลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางของทางการจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาทิศทางราคาน้ำมันในการประชุมโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เพราะหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตาม และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เพิ่มแรงซื้อเข้ามาตลาดทองคำ เพราะว่าทองคำเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทำประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ
ซึ่งในการประชุมพิเศษระหว่างรัสเซีย และกลุ่มโอเปกวันที่ 25 พฤศจิกายน คาดว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลกให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น