บมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง หรือ MTLS เปิดเทรดวันแรกบวกทันที 3.75 บาท หรือ 68.18% มาอยู่ที่ 9.25 บาท/หุ้น จากราคา IPO ที่ 5.50 บาท/หุ้น ณ เวลา 10.02 น. ตั้งเป้าเอาเงินระดมทุนที่ได้ไปขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 1,000 สาขาประเทศ ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโตให้ได้ 25,000 ล้านบาทภายในปี 2560
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง หรือ MTLS กล่าวว่า มีความยินดีที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีฐานลูกค้ากว่า 7 แสนบัญชี อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม
“เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทฯ เตรียมนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้ในการปล่อยสินเชื่อ รองรับแผนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ซึ่งเตรียมขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,000 สาขา และคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะแตะ 25,000 ล้านบาท ในปี 2560 เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีฐานรายได้ในระดับปานกลางที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อของระบบสถาบันการเงินได้ ทำให้เห็นถึงแนวโน้มตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวจากปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,348.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 19.14% มีกำไรสุทธิ 397.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 77.15% โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2557 บริษัทมีเงินให้สินเชื่อที่หยุดรับรู้รายได้ (เอ็นพีแอล) ต่อสินเชื่อรวม 1.64% และหนี้สูญต่อสินเชื่อรวม 0.08% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังสามารถรักษาอัตราส่วนทั้งสองได้ในระดับต่ำ และสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 2,120 ล้านบาท และมีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 1,575 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,575 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 1 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 2,120 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,120 ล้านหุ้น
