นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ แนะเก็บหุ้นญี่ปุ่นเพื่อรอขาขึ้นช่วงเดือน ธ.ค. หลังรัฐอัดฉีด QQE หนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นสดใส
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของญี่ปุ่นของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีมติอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบผ่านโครงการ QQE โดยเพิ่มวงเงินจาก 50 เป็น 80 ล้านล้านเยนต่อปี และการที่กองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ประกาศเพิ่มสัดส่วนการถือครองตราสารทุนในญี่ปุ่น และเอเชียอยู่ที่ 50% ซึ่งเกินความคาดหมายของตลาด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี หนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นให้สดใส โดยดัชนี NIKKEI ขึ้นทำ New High สูงที่สุดในรอบ 7 ปี ทำให้ตอบแทนจากต้นปี (Year to Date) เท่ากับ 8% เพิ่มโอกาสในการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดย บล.ทิสโก้ แนะเก็บหุ้นญี่ปุ่นรอขาขึ้นเดือนธันวาคม
โดย บล.ทิสโก้ วิเคราะห์ดัชนี NIKKEI ในช่วง 3 เดือน คาดว่าจะแกว่งออกข้างเพื่อสร้างฐานรอการขึ้นรอบใหม่อีกครั้งในเดือนธันวาคม จึงแนะนำให้เข้าซื้อ ETF - Nomura NIKKEI 225 เมื่อดัชนี NIKKEI ลงสู่แนวรับที่ 16,700 หรือ 16,300 จุดในเดือนนี้ โดยมีเป้า 3 เดือนที่ 18,300 จุดหรือ Upside 6.5% สำหรับในระยะยาวมองว่า ผลจากนโยบายปฏิรูปภาษีและการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลจำทำให้เป้าหมายดัชนี NIKKEI ปีหน้า (2558) ขึ้นแตะ 20,800 จุด เหลืออัปไซด์อีกถึง 20% โดยนอกจาก ETF ที่ลงทุนในดัชนี NIKKEI225 แล้ว บทวิเคราะห์ TISCO Global Trade - Equity Strategy ของ บล.ทิสโก้ แนะนำหุ้นญี่ปุ่นรายตัวให้แก่นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น โดยหุ้นเด่นประจำเดือนล่าสุดใน Tokyo Stock Exchange และราคาเป้าหมายใน 12 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วย Toshiba (579.4 JPY), Mazda Motor (3,138.9 JPY), Tokyo Marine Holdings (4,008.1 JPY), Japan Airlines (3,459.5 JPY) และ Kubota (1,562.5 JPY)
สำหรับหุ้น Toshiba Corp. โดดเด่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลก และยังเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ รวมถึงหน่วยความจำที่ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคิดเป็น 33% ของกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในปี 2555 และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมี บ.Apple เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Toshiba และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คาดว่าจะขยายฐานลูกค้าไปยัง บ.Samsung และ ลูกค้า PC รายอื่นๆ โดย Bloomberg Consensus ให้เป้าหมาย 1 ปีของราคาหุ้นอยู่ที่ 579.4 JPY มีอัปไซด์สูงถึงกว่า 31% โดยปัจจุบันราคาขึ้นมาแล้วกว่า 14% นับจากวันที่สำนักวิจัยทิสโก้ออกบทวิเคราะห์
อีกหนึ่งบริษัทที่แนะนำให้เข้าซื้อคือ บ.Mazda Motors ผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ได้รับอานิสงส์จากการที่เงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ Mazda ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทก็มีกำลังการผลิต และเครือข่ายการจำหน่ายสินค้าที่แข็งแกร่ง ได้แก่ สินค้าที่ยอดขายสูงสุดอย่างรถยนต์รุ่น มาสด้า 2 และรถยนต์รุ่น มาสด้า 3 จะช่วยเพิ่มยอดขาย และฐานะการเงินของบริษัทได้อย่างมาก ตลาดให้เป้าหมาย 1 ปีราว 3,138.9 JPY อัปไซด์ 35% สูงที่สุดในบรรดาหุ้นแนะนำทั้ง 5 ตัว โดยปัจจุบันราคาขึ้นมาแล้วกว่า 27% นับจากวันที่ บล.ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์
และหุ้นสุดท้ายคือTokio Marine Holdings Inc. เป็นบริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจประกันภัยที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว โดยบริษัทเป็นกลุ่มประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในด้านประกันบ้านและภัยธรรมชาติในญี่ปุ่น มีพนักงานกว่า 29,000 คน ใน 38 ประเทศทั่วโลก โดยบทวิเคราะห์ TISCO Global Trade แนะนำซื้อจากการเพิ่มค่าพรีเมียมของค่าประกันภัยรถยนต์ในขณะที่มีอัตราการเคลมลดลง และมีภัยธรรมชาติลดลง นอกจากนี้ ยังมีกาไรที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนเพิ่มขึ้น และราคายังไม่สูง ตลาดให้เป้าหมาย 1 ปีราว 4,008.1 JPY อัพไซต์ 26% โดยปัจจุบันราคาขึ้นมาแล้วกว่า 20% นับจากวันที่สำนักวิจัยทิสโก้ออกบทวิเคราะห์