นายแบงก์คาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้าโตได้ 4% จากแรงหนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและเออีซี เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนมากขึ้น
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะขยายตัวได้ร้อยละ 4 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมองว่าปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวลงเป็นเพียงปัญหาระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่ปัญหาการเมืองในประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น มองว่าเป็นปัญหาฉุดการลงทุนของภาคเอกชนให้ขาดความเชื่อมั่น
“ปีหน้ามองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ เพราะมีความหวังเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะมาช่วยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอีกทางหนึ่ง แต่ภาครัฐจะต้องตัดสินใจเร็วในเรื่องการลงทุนต่างๆ เพราะในส่วนของเอกชนมีความพร้อมอยู่แล้ว ขณะที่ปัญหาการเมืองจะต้องไม่เกิดขึ้นมาฉุดรั้งการเติบโตอีก” นายบัญฑูร กล่าว
สำหรับมาตรการทางการเงินยอมรับว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นเท่านั้น แต่ระยะยาวจะต้องเร่งการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนมากกว่า ส่วนการท่องเที่ยวคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่การส่งออก เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่จะต้องเร่งพัฒนาให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น
นายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2558 คาดว่าจีดีพี จะเติบโตร้อยละ 3-4 โดยมีแรงสนับสนุนจากความคืบหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน
“ครึ่งปีแรกเจอหนัก ไม่มีรัฐบาล แต่พอตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางก็ไปได้บ้าง ส่วนปีหน้าเริ่มจะกลับมาขยายตัวได้ แต่คงไม่สูงมาก” นายสุภัค กล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ไป คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่เมื่อดูข้อมูลจะพบว่าตัวเลขหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงเกิดจากผู้มีรายได้น้อย แต่ความเชื่อมั่นการบริโภคและการใช้จ่ายนั้น เริ่มกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ส่วนมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุน สาธารณูปโภค เร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี เชื่อว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น
