xs
xsm
sm
md
lg

โมเดอร์นฟอร์มจับมืออิโตกิยักษ์ใหญ่เฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่นรุกตลาด AEC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษะ บุษยโภคะ
โมเดอร์นฟอร์ม รุกหนักธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ AEC จ่อร่วมทุนอิโตกิผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ตั้งบริษัทลูกคาดเริ่มลงทุนต้นปีหน้า ประเดิมผุดโรงงานที่พม่า หลังจากนั้นรุกต่ออินโดนีเซีย เชื่อช่วยหนุนบริษัทโตก้าวกระโดด เผยเตรียมขยายไลน์ธุรกิจจ่อเทคโอเวอร์โรงพยาบาลผ่านบริษัทในเครือ คาดได้ข้อสรุปสิ้นปีนี้ เผยยอดขายปี 57 กว่า 4,000 ล้านบาท

นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความสำเร็จของโมเดอร์นฟอร์มตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าและบรรดาพันธมิตรที่ดีมาโดยตลอด กว่า 3 ทศวรรษที่โมเดอร์นฟอร์มมุ่งมั่นและพัฒนางานด้านดีไซน์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตเฟอร์นิเจอร์คุณภาพเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์บ้าน และเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว โมเดอร์นฟอร์มจะยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตด้วยเจตนารมณ์ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตในด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำงาน

นอกจากนี้ โมเดอร์นฟอร์มจะขยายไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งได้ทำบางส่วนไปแล้วและจะขยายแนวทางของสินค้าให้ครอบคลุมกว้างขึ้น สำหรับการย่างก้าวเข้าสู่ AEC โมเดอร์นฟอร์มมุ่งเจาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ให้แข็งแรง เนื่องจากใกล้ชิดและนิยมสินค้าเราอยู่แล้ว และจะขยายไปใน AEC อย่างครบวงจร โดยเริ่มจากด้วยการตั้งดีลเลอร์ที่ประเทศพม่า โดยเปิดโชว์รูมแรกที่กรุงเนปิดอว์ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างสร้างโชว์รูมที่นครย่างกุ้ง โดยพบว่ายอดขายดีมาก รวมถึงการตั้งดีลเลอร์ที่ลาว โดยเปิดโชว์รูปที่กรุงเวียงจันทน์ นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปซื้อหุ้นในสัดส่วน 5% ของ Versaling ซึ่งเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สำนักงานในมาเลเซีย ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

ร่วมทุนอิโตกิยักษ์เฟอร์นิเจอร์ญี่ปุ่น

นายทักษะ กล่าวเพิ่มว่า นอกจากการขยายดีลเลอร์ไปยังประเทศต่างๆ แล้ว บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับบริษัท อิโทกิ เฟอร์นิเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ติดอันดับ 1 ใน 5 รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น โดยความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการร่วมลงทุนในสัดส่วน 50:50 เพื่อก่อตั้งบริษัทลูก โดยคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้และเริ่มจัดตั้งบริษัทลูกได้ในช่วงต้นปี 58 โดยจะใช้จุดเด่นและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายในการดำเนินธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งอิโตกิมีความเชี่ยวชาญและมีโนว์ฮาวในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน ส่วนโมเดอร์นฟอร์มมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบ

ภายหลังความร่วมมือ จะมีการนำสินค้าของโมเดอร์นฟอร์มไปขายในญี่ปุ่น หรือนำสินค้าของอิโตกิมาขายในเมืองไทย ซึ่งพบว่ามีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาเปิดสำนักงานในเมืองไทยมากกว่า 4,000 บริษัท รวมทั้งรองรับโอกาสจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ซึ่งการขยายตลาดไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านและความร่วมมือกับอิโตกิครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทขยายตลาดไปได้มากขึ้น และโตแบบก้าวกระโดดได้ในอนาคต

สำหรับความมือแรกจะการเข้าไปตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ คาดใช้เงินทุนกว่า 10 ล้านบาท นอกจากร่วมทุนสร้างโรงงานในพม่าแล้ว ยังขยายความร่วมมือในการทำตลาด โดยการนำสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่น และนำสินค้าของอิโตกิมาขายในเมืองไทย โดยรูปแบบความร่วมมือ จะเป็นทั้งการนำสินค้าโมเดอร์นฟอร์มไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่น หรือนำเฟอร์นิเจอร์จากญี่ปุ่นมาจำหน่ายในไทย

“นอกจากการลงทุนในพม่าแล้ว เราและอิโตกิยังมีความคิดที่จะใช้บริษัทร่วมทุนเข้าไปร่วมกับพาร์ตเนอร์ในอินโดนีเซีย โดยจะใช้จุดเด่นของแต่ละฝ่าย อิโตกิเก่งเรื่องโนว์ฮาว เราเก่งเรื่องออกแบบ ขณะที่อินโดนีเซียค่าแรงถูกต้นทุนการผลิตต่ำ และเป็นตลาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากกว่า ส่วนจะร่วมลงทุนในรูปแบบใดนั้น จะต้องเจรจาในรายละเอียดกันอีกครั้ง” นายทักษะ กล่าว

จ่อเทคโอเวอร์โรงพยาบาลขยายไลน์ธุรกิจ

นายทักษะ กล่าวเพิ่มว่า นอกจากการขยายตลาดต่างประเทศแล้วยังขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากเดิมที่เน้นงานอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก โดยมีแผนซื้อกิจการโรงพยาบาลภายในกรุงเทพฯ ภายใต้บริษัทลูก โมเดอร์นฟอร์ม แฮลแคร์ จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 2 แห่ง โดยจะบริหารเอง เพื่อให้การทำธุรกิจมีความครบวงจร หลังจากที่โมเดอร์นฟอร์ม แฮลแคร์ จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพ เฟอร์นิเจอร์ภายในโรงพยาบาลและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท คาดว่า ยอดขายประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% หรือ 4,600 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีแรก ส่วนปี 2558 เชื่อว่าตลาดจะฟื้นตัวดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 15% ส่วนความร่วมมือกับอิโตกิและการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะยังไม่เห็นผลชัดเจนในด้านของรายได้ในเร็วๆ นี้ แต่อนาคตจะช่วยให้บริษัทมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

พร้อมกันนี้ บริษัทจะมีขยายโมเดลธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ สเปเชียลตีสโตร์ มีสินค้าเฉพาะอย่างเหมาะในแต่ละทำเล และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่นใน 1 ร้านจะขายเฉพาะแค่เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน หรือเฟอร์นิเจอร์ครัว เบื้องต้นมีแผนจะเปิด 4-5 จุดก่อนในปีหน้า จะใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 20 ล้านบาทขึ้นไป ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 100-500 ตร.ม.

“สำหรับธุรกิจค้าปลีกได้เปลี่ยนโมเดลธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ โดยใช้แนวคิดมีสินค้าเฉพาะอย่างในโลเคชันที่เหมาะสมและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะกลุ่ม เป็น Specialty Showroom ซึ่งมีขึ้นในเร็วๆ นี้” นายทักษะ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น