ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงเช้าไปที่ 1,580.39 จุด ลดลง 4.76 จุด เปลี่ยนแปลง -0.30% มูลค่าการซื้อขาย 27,008.29 ล้านบาท ระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,587.83 จุด ต่ำสุด 1,577.01 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ ระบุ วันนี้ (5 พ.ย.) ดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,580-1,592 จุด โดยมีปัจจัยกดดัน คือ ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนต์ ต่ำสุดรอบ 4 ปี และธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB อาจไม่ลดวงเงินอัดฉีดผ่านมาตรการ QE แม้จะปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจลงอย่างมีนัย ขณะที่ปัจจัยลบในประเทศมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 3/57 แย่กว่าคาด ทำให้นักเก็งกำไรยังคงหันไปเลือกลงทุน หุ้นขนาดเล็ก-กลาง
ส่วนผลการเลือกตั้งสภาสูง-ล่างสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการนับคะแนน อิงสถิติย้อนหลังพบว่า ดัชนีฯ จะตอบรับเชิงบวก หากพรรครีพลับลิกันครองเสียงข้างมาก
ฝ่ายวิเคราะห์ ระบุ การที่ดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,580 จุดได้อย่างแข็งแกร่งยังมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นบริเวณกรอบล่างของ Uptrend channel ซึ่งเป็นเหมือนแนวต้านอยู่ในขณะนี้ หากผ่านได้จะกลับมาเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งและพยุงดัชนีฯ ให้กลับเข้าสู่ทิศทางของการปรับขึ้นในระยะกลาง โดยจะกลับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,600-1,602 จุด จากแรงหนุนจากแรงซื้อของ LTF/RMF ช่วงปลายปี
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,598.99 ล้านบาท ปิดที่ 185.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
GEL มูลค่าการซื้อขาย 933.74 ล้านบาท ปิดที่ 1.03 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 909.08 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AEC มูลค่าการซื้อขาย 805.36 ล้านบาท ปิดที่ 1.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท
LHBANK มูลค่าการซื้อขาย 538.36 ล้านบาท ปิดที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท