ไออาร์พีซี ไตรมาส 3 ปีนี้กำไรวูบเหลือ 22 ล้านบาท ลดลงจากงวดนี้ปีก่อนที่ทำไว้ 1,047.32 ล้านบาท หรือกำไรลดลง 1,026 ล้านบาท หรือลดลง 98% เหตุหยุดเดินเครื่องหน่วย VGOHT อันเนื่องจากเกิดเพลิงไหม้ คาดเดินเครื่องปกติ เม.ย.58
นางดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.09 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,047.32 ล้านบาท หรือกำไรลดลง 1,026 ล้านบาท หรือลดลง 98% ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2557 มีกำไรสุทธิ 544 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,195% โดยผลงานที่ต่ำลง เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงหยุดเดินเครื่องหน่วย VGOHT ซึ่งเป็นหน่วยเตรียมน้ำมันเตาเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 57 และคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 58 เป็นผลให้การผลิตลดลงจากระดับปกติโดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 68,507 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ปีก่อน 3,259 ล้านบาท หรือลดลง 5% เป็นผลมาจากปริมาณขายรวมลดลง 5 % จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าว ทั้งนี้ ปริมาณขายลดลงจาก 17.63 ล้านบาร์เรล หรือ 192 พันบาร์เรลต่อวัน ในไตรมาส 3ปีก่อน เป็น 16.82 ล้านบาร์เรลหรือ 183 พันบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกัน
สำหรับงวด 9 เดือนปี 57 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 212,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนจำนวน 4,139 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% เป็นผลจากราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 6% จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ขณะที่ปริมาณขายรวมลดลง 4% จาก 52.42 ล้านบาร์เรล หรือ 192 พันบาร์เรลต่อวัน ในงวด 9 เดือนปี 56 เป็น 50.20 ล้านบาร์เรล หรือ 184 พันบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) สำหรับไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 3,357 ล้านบาท หรือ 6.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อนที่ 3,121 ล้านบาทหรือ 5.99 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจัยหลักๆ ดังนี้ คือส่วนต่างราคาตลาดที่อิงตามตลาดโลกเพิ่มขึ้นทำให้ GIM เพิ่มขึ้น 0.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปริมาณการผลิตที่ลดลงจากเหตุเพลิงไหม้หน่วยผลิต VGOHT ทำให้ GIM ลดลง 0.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด (Operation Excellence & Commerical Excellence) ภายใต้โครงการเดลต้า ทำให้ GIM เพิ่มขึ้น 0.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลการบริหารความเสี่ยงส่วนต่างราคาน้ำมันทำให้ไตรมาสนี้มีกำไรจาก Oil Hedging 376 ล้านบาท หรือ 0.75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ผลจากการที่ราคาน้ำมันปรับลดลงทำให้มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 1,906 ล้านบาท หรือ 3.82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และขาดทุนจากค่าเผื่อการลดลงของราคาสินค้าคงเหลือ (LCM) 318 ล้านบาท หรือ 0.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) รวม 1,509 ล้านบาท หรือ 3.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากไตรมาส 3 ก่อนที่ 5,417 ล้านบาทหรือ 10.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยไตรมาส 3 ปีก่อนบริษัท มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 2,085 ล้านบาท หรือ 4.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีกำไรจาก Oil Hedging 211 ล้านบาทหรือ 0.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นางดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC แจ้งผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 22.09 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,047.32 ล้านบาท หรือกำไรลดลง 1,026 ล้านบาท หรือลดลง 98% ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2557 มีกำไรสุทธิ 544 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,195% โดยผลงานที่ต่ำลง เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงหยุดเดินเครื่องหน่วย VGOHT ซึ่งเป็นหน่วยเตรียมน้ำมันเตาเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 57 และคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติประมาณเดือนเมษายน 58 เป็นผลให้การผลิตลดลงจากระดับปกติโดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 68,507 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3 ปีก่อน 3,259 ล้านบาท หรือลดลง 5% เป็นผลมาจากปริมาณขายรวมลดลง 5 % จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ดังกล่าว ทั้งนี้ ปริมาณขายลดลงจาก 17.63 ล้านบาร์เรล หรือ 192 พันบาร์เรลต่อวัน ในไตรมาส 3ปีก่อน เป็น 16.82 ล้านบาร์เรลหรือ 183 พันบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกัน
สำหรับงวด 9 เดือนปี 57 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 212,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนจำนวน 4,139 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% เป็นผลจากราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 6% จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ขณะที่ปริมาณขายรวมลดลง 4% จาก 52.42 ล้านบาร์เรล หรือ 192 พันบาร์เรลต่อวัน ในงวด 9 เดือนปี 56 เป็น 50.20 ล้านบาร์เรล หรือ 184 พันบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) สำหรับไตรมาส 3 ปีนี้อยู่ที่ 3,357 ล้านบาท หรือ 6.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อนที่ 3,121 ล้านบาทหรือ 5.99 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจัยหลักๆ ดังนี้ คือส่วนต่างราคาตลาดที่อิงตามตลาดโลกเพิ่มขึ้นทำให้ GIM เพิ่มขึ้น 0.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปริมาณการผลิตที่ลดลงจากเหตุเพลิงไหม้หน่วยผลิต VGOHT ทำให้ GIM ลดลง 0.67 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด (Operation Excellence & Commerical Excellence) ภายใต้โครงการเดลต้า ทำให้ GIM เพิ่มขึ้น 0.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลการบริหารความเสี่ยงส่วนต่างราคาน้ำมันทำให้ไตรมาสนี้มีกำไรจาก Oil Hedging 376 ล้านบาท หรือ 0.75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ผลจากการที่ราคาน้ำมันปรับลดลงทำให้มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 1,906 ล้านบาท หรือ 3.82 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และขาดทุนจากค่าเผื่อการลดลงของราคาสินค้าคงเหลือ (LCM) 318 ล้านบาท หรือ 0.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) รวม 1,509 ล้านบาท หรือ 3.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากไตรมาส 3 ก่อนที่ 5,417 ล้านบาทหรือ 10.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยไตรมาส 3 ปีก่อนบริษัท มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 2,085 ล้านบาท หรือ 4.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีกำไรจาก Oil Hedging 211 ล้านบาทหรือ 0.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
