คอลลิเออร์สฯ ระบุตลาดคอนโดฯ 9 เดือนเปิดขายใหม่ลดลง 30% ยอดขายลด 20% เผย กทม.เปิดขายใหม่ 3.4 หมื่นยูนิต ลดลง 20% อัตราขายแค่ 54% ส่วนเมืองท่องเที่ยวกระทบหนักสุด พัทยาโครงการเปิดใหม่ลดกว่า 70% หลังตลาดเข้าขั้นโอเวอร์ซัปพลายเหลือขายกว่า 40% จาก 30,000 ยูนิต ส่วนภูเก็ตอัตราขายแค่ 37% ขณะที่หัวหิน-ชะอำ คอนโดฯ เปิดใหม่ลดลง 67% แต่ยังได้อานิสงส์จากกลุ่มผู้ซื้อคนไทย
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาว่า ตลาดคอนโดมิเนียมยังไม่ฟื้นตัวเต็ม 100% โดยพบว่าคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงจากปี 56 เฉลี่ย 20-30% ส่วนอัตราการขายปรับลดลงเฉลี่ย 20% โดยคาดว่าน่าจะมาจากภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่ได้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ จากปัจจัยหลายๆ อย่างที่มีผลโดยตรงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกที่ยังคงติดลบต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมายังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 10% ซึ่งมีผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงประมาณ 7.55% จากปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศจึงยังคงไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แม้ว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาเพื่อบริหารประเทศ และพัฒนาโครงการต่างๆ ตามแผนต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมา และโครงการใหม่ๆ ที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ แต่ต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการฟื้นความเชื่อมั่นของทั้งคนไทยเอง และชาวต่างชาติให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมซึ่งหลายฝ่ายตั้งความหวังว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ หลังจากที่ระบบต่างๆ และโครงการต่างๆ สามารถเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ของรัฐบาล
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าในรอบ 9 เดือนของปี 57 ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครเปิดขายใหม่ประมาณ 34,540 ยูนิต โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะมีคอนโดฯ เปิดขายใหม่เพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 5,000-6,000 ยูนิต ส่งผลให้ทั้งปี 57 มีคอนโดเปิดขายใหม่กว่า 40,000 ยูนิต ปรับตัวลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 54% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 56 ที่มีอัตราการขายเฉลี่ย 61% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 77,800 บาท/ตารางเมตร ปรับลดลงเล็กน้อยจากปี 56 ที่ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 81,000 บาท/ตร.ม. เนื่องจากคอนโดฯ บางส่วนเปิดตัวในทำเลรอบนอกเมือง โดยช่วงระดับราคาที่เปิดตัวมากที่สุดของปีนี้อยู่ที่ระดับราคา 40,000-80,000 บาทต่อ ตร.ม.
“เฉพาะไตรมาสที่ 3 กทม.มีคอนโดฯ เปิดขายใหม่ 11,700 ยูนิต ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ประมาณ 8% ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดเปิดใหม่ในไตรมาส 3 ประมาณ 91,550 บาทต่อ ตร.ม. เนื่องจากมีคอนโดฯ ไฮเอนด์เปิดตัว โดยเพิ่มจากไตรมาส 3/56 ที่มีราคาเฉลี่ย 81,000 บาท/ตร.ม. อัตราการขาย 59% ลดลงจากไตรมาส 2 ประมาณ 8% เนื่องจากตลาดคอนโดฯ ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ ยอดขายในไตรมาส 1-2 ยังไม่มากนัก แม้ว่าผลสำรวจจากหน่วยงานต่างๆ จะระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้ซื้อจะมากขึ้นก็ตาม ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อน อีกทั้งต้องการที่จะรอดูความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้าทั้งส่วนต่อขยาย และเส้นทางใหม่ๆ ที่จะพัฒนาในอนาคตจากทางรัฐบาลว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่”
นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับตลาดคอนโดฯ ในหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ยังคงซบเซาต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 56 โดยส่วนหนึ่งมาจากการประกาศกฎอัยการศึก ทำให้ชาวต่างชาติไม่ได้รับประกันการเดินทางและเกิดความไม่มั่นใจ โดยตลาดที่ซบเซามากที่สุด คือ พัทยา ที่อยู่ในภาวะโอเวอร์ซัปพลาย เนื่องจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีคอนโดฯ เปิดใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากปีละกว่า 16,000 ยูนิต ทำให้ปัจจุบันมีซัปพลายอยู่กว่า 30,000 ยูนิต โดยเฉพาะหาดจอมเทียรที่มีโครงการเปิดขายมากที่สุด ปัจจุบันมียูนิตเหลือขายอยู่ประมาณ 40% จากภาวะจำนวนสินค้าเหลือขายจำนวนมากทำให้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีคอนโดฯ เปิดใหม่เพียง 4,000 ยูนิตเท่านั้น ลดลง 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 56
ส่วนคอนโดฯ ชะอำและหัวหิน คอนโดฯ เปิดขายใหม่รอบ 9 เดือน ลดลงเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 800 ยูนิต ลดลงจากปี 56 ประมาณ 67% แต่เนื่องจากตลาดดังกล่าวกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวไทยทำให้ไม่กระทบมากเช่นตลาดเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ขณะที่ตลาดภูเก็ตมีโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 2,860 ยูนิต ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีคอนโดฯ เปิดใหม่ 4,490 ยูนิต ส่วนอัตราการขายเฉลี่ยที่ 37%
สำหรับตลาดคอนโดฯ เขาใหญ่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/57 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ประมาณ 500 ยูนิต ลดลงจากปีก่อนหน้านี้ประมาณ 69% เนื่องจากอัตราการขายของโครงการต่างๆ ที่เปิดก่อนหน้านั้นต่ำกว่า 40% เนื่องจากเขาใหญ่ยังไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการซื้อบ้านหลังที่สองของคนในกรุงเทพฯ ที่นิยมไปหัวเมืองชายทะเลมากกว่า แต่จะได้รับความนิยมในช่วงหน้าหนาว
นายสุรเชษฐ กล่าวเพิ่มว่า ตลาดคอนโดฯ ในหัวเมืองท่องเที่ยวยังคงซบเซาต่อเนื่องจากช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่ยังมีผลต่อความเชื่อมั่น รวมทั้งการที่มีคอนโดฯ เปิดขายเป็นจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้อัตราการขายลดลง อีกทั้งผู้ซื้อคอนโดฯ ในหัวเมืองต่างจังหวัดส่วนหนึ่งซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือเป็นบ้านพักตากอากาศ ดังนั้น การตัดสินใจซื้อจึงค่อนข้างใช้เวลานานกว่าการซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยจริงๆ
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี พ.ศ.2558 นั้นคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในแง่ของความต้องการซื้อ โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัย แต่ในส่วนของอุปทานนั้นยังคงมีโครงการใหม่ๆ เปิดขายต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการหลายรายมีความมั่นใจว่าปีหน้าตลาดที่อยู่อาศัยจะดีขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นของคนไทยที่เพิ่มมากขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากกว่าปีนี้ รวมทั้งโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่จะเห็นความก้าวหน้ามากขึ้นในปีหน้า แต่เรื่องที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะในธุรกิจท่องเที่ยวต้องการให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่สุดคือ การยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้กลับมาเร็วขึ้นก็จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีและต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ในหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะเมืองชายทะเลที่ลูกค้าส่วนหนึ่งมาจากชาวต่างชาติ” นายสุรเชษฐ กล่าว
