xs
xsm
sm
md
lg

“อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก” นั่งประธาน สทท.ชง 11 แผนต่อรัฐบาล ดันรายได้ท่องเที่ยว 4 ล้านล้าน ปี 61

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระบี่ - “อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ”อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวกระบี่ นั่งประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคนใหม่ ฟิตเตรียมชง 11 แผนต่อรัฐบาล และ รมว.การท่องเที่ยว ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่เป้าหมายรายได้ 4 ล้านล้าน ปี 2561

อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อดีตนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ 4 สมัย กล่าวว่า หลังจากได้รับการเลือกตั้งจากคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งประธาน สทท.คนใหม่ แทนนางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานฯ คนเก่าที่ครบวาระ ก็จะเร่งขับเคลื่อนนโยบายภายใต้บอร์ดชุดใหม่ เตรียมนำเสนอ 11 แผนต่อรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ 1.การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวศิลปวัฒนธรรม 2.การสนับสนุนให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน 3.การพัฒนาการเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวการสร้างเครือข่ายเส้นทางคมนาคมทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

4.การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวไทย และการผลักดันให้เกิดการสร้างแบรนด์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 5.การสร้างความมั่นใจ และความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว 6.การพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 7.การพัฒนาผู้ประกอบการท่องเที่ยวและองค์กรท่องเที่ยวเอกชนให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขัน 8.การสร้างสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศ 9.การส่งเสริมการตลาดในประเทศและต่างประเทศ 10.สนับสนุนภาคีการต่อต้านคอร์รัปชัน และ 11.การพัฒนา สทท.ให้มีความเข้มแข็ง รวมถึงประสานความร่วมมือกันทำงานระหว่าง สทท.ส่วนกลางกรุงเทพฯ และ สทท.ภูมิภาค

ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายรายได้จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศ จาก 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 เป็น 4 ล้านล้านบาท ในปี 2561 หรืออีกใน 4 ปีข้างหน้า คาดว่าค่อนข้างเหนื่อยอย่างแน่นอน ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่ก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางศิลปะ วัฒนธรรม ท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน หาดทราย ชายทะเล ซึ่งมีความพร้อมค่อนข้างสูงที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัส และสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ เพียงแต่บางแห่งยังขาดการจัดการที่ดีเท่านั้น

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวป้ายแดง ยังได้กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังขาดการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยบางพื้นที่ใช้เพียงอาสาสมัคร หรือ อปพร.เข้าไปทำหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทำให้ไม่สามารถดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดช่องว่างของการก่ออาชญากรรม และนอกจากนี้ ตามชายหาดเองโดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติ ก็ควรจะมีบีชการ์ด คอยรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะเห็นได้ว่าขณะนี้มีแต่ในนามเท่านั้น และควรจะมีค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครดังกล่าวด้วยเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายอิทธิฤทธิ์ ยังได้กล่าวถึงกฎอัยการศึก ที่ทางรัฐบาลยังคงไว้บางพื้นที่ ว่า นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ ส่วนหนึ่งยังคงมีความกังวล หากว่าเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติแล้วทางรัฐบาลก็ควรจะยกเลิกไป เชื่อว่าความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่อประเทศไทยก็จะเพิ่มมากขึ้น และการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศก็จะเพิ่มจำนวนมากตามไปด้วย ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเห็นสมควร และตัดสินใจ สำหรับภาพรวมของการท่องเที่ยวในขณะนี้ถือว่าสถานการณ์ค่อนข้างดี และมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับเพราะในส่วนของฝั่งอันดามันก็ใกล้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซันประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น