“คลัง” ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือร้อยละ 1.4 เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว ขณะที่ปี 2558 โตร้อยละ 4.1 เพราะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐเริ่มเดินหน้า การเมืองเริ่มคลี่คลาย
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวครึ่งปีแรกเติบโตร้อยละ 0.1 จึงคาดว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะขยายร้อยละ 2.9 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว เดิมคาดการณ์ว่า การส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 1.5 แต่ขณะนี้คาดว่าทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 การท่องเที่ยวฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จึงปรับลดจีดีพีปี 2557 เหลือร้อยละ 1.4 จากเดิมคาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 2 โดยอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 2.1
สำหรับเศรษฐกิจปี 2558 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.1 มีตัวเร่งจากการลงทุนภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีนโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ด้านเสถียรภาพภายในประเทศ การท่องเที่ยวฟื้นตัว การส่งออกคาดการณ์ว่าขยายตัวร้อยละ 3.5 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2558 จะอยู่ที่ร้อยละ 2.2 และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ และเมื่อสิ้นปีประเมินผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งออกไปแล้วจะมีผลตามเป้าหมายหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามเป้าหมายคาดว่า รัฐบาลคงต้องออกมาตรการช่วยเหลือด้านต่างๆ เพิ่ม โดยยอมรับว่าต้องคำนึงปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เช่น การเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว การฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่เปราะบางและแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงตกต่ำ
น.ส.กุลลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สศค. กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 2.2 ปีนี้ และเติบโตขึ้นร้อยละ 2.5 ในปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จึงยกเลิกมาตรการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบ ในส่วนของยุโรป จีดีพียังไม่ฟื้นตัว จึงคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.8 ส่วนจีน คาดว่าจีดีพีขยายตัวร้อยละ 7.3 ราคาน้ำมันดิบดูไบราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 101 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดอกเบี้ยนโยบายคาดว่ายังคงทรงตัวร้อยละ 2 ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
