อธิบดีกรมศุลกากร สั่งขันนอตการจัดเก็บภาษี พร้อมเปลี่ยนตัว 5 ผอ.สำนักงานศุลกากรหลัก หวังรายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากรว่า ได้สั่งเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานจัดเก็บ โดยเฉพาะ 5 สำนักงานศุลกากร คือ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง, สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ, สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ, สำนักงานศุลกากรลาดกระบัง และสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าสุวรรณภูมิ เนื่องจากทั้ง 5 สำนักงานศุลกากรเป็นหน่วยจัดเก็บรายได้หลักถึงร้อยละ 80 ของรายได้ศุลกากรทั้งหมด โดยสั่งให้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 5 พร้อมกันนี้ ได้มีการเปลี่ยนผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรทั้ง 5 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กรมศุลกากร ยังคงเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2558 ไว้ที่ 112,800 ล้านบาท โดยต้องติดตามภาวะการนำเข้าที่ยังไม่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าปี 2558 การนำเข้าจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการจัดเก็บของกรมศุลกากรเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ กรมศุลกากรจะดูแลเรื่องสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเน้นย้ำไม่ให้มีการละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์ ดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บน อุดการรั่วไหลโดยเฉพาะการนำเข้ารถยนต์หรู และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บสินค้าตามหน้าด่านชายแดนต่างๆ เช่น ด่านอรัญประเทศ
นายสมชัย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมีรถยนต์หายไปจากคลังทัณฑ์บนของกรมศุลกากร ไม่ยอมมาเสียภาษีอย่างถูกต้องกว่า 500 คัน ว่า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ที่เกี่ยวข้องได้เรียกคืนรถดังกล่าวกลับคืนมาแล้วประมาณกว่า 300 คัน ยังเหลือรถยนต์หายอีก 100-200 คัน และมีบางส่วนยอมเสียภาษีครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้นำเข้ารถอย่างไม่ถูกกฎหมาย แจ้งข้อกล่าวหาคลังทัณฑ์บนที่ทำผิด โดยส่งฟ้องแล้ว 2-3 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย