รมว.คลัง เร่งวางแผนใช้นาโนไฟแนนซ์ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย เปิดทางให้บริษัทเอกชนเข้าร่วมโครงการ ดึงดูดด้วยการนำรายได้คำนวณภาษีเพียงครึ่งหนึ่ง พร้อมยอมรับขณะนี้เศรษฐกิจมีปัญหาหยุดชะงัก ต้องเร่งแก้ไข
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนสูงในปัจจุบัน กระทรวงการคลังจึงได้ศึกษาแผนแก้ปัญหาให้ลงลึกไปถึงระดับรายย่อยที่มีรายได้น้อยมาก หรือเรียกว่านาโนไฟแนนซ์ จากเดิมได้หาทางช่วยลูกหนี้ไมโครไฟแนนซ์การปล่อยกู้ประมาณ 200,000 บาทต่อราย สำหรับนาโนไฟแนนซ์ ปล่อยกู้วงเงิน 100,000-120,000 บาทต่อราย ซึ่งถือว่ายังเป็นกลุ่มมีรายได้ต่ำ ที่ผ่านมา ให้ธนาคารของรัฐเข้าแก้ไขแต่ทำได้ยาก เบื้องต้นจึงได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดทางให้บริษัทเอกชนทั่วไป มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศ เพื่อปล่อยกู้ให้แก่ราย่อยกลุ่มดังกล่าว
ดังนั้น หากภาคเอกชนรายใดมีความสนใจพร้อมเข้าร่วมโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบร่วมกับรัฐบาลได้ ขณะนี้ขอเวลาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน เมื่อกลุ่มรายย่อยเหล่านี้มีปัญหา และมีบริษัทเอกชนมาปล่อยกู้เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย หรือชำระหนี้เดิม อาจให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณร้อยละ 30-36 และอาจให้นำรายได้จากการร่วมโครงการไปคำนวณภาษีเพียงครึ่งเดียว เพื่อเพิ่มแรงจูงให้เข้าช่วยแก้ปัญหา และเสนอให้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด ประกอบด้วย คลังจังหวัด ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กรมสรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมดูแลปัญหาหนี้ในพื้นที่ คาดว่าไม่เกิน 10 วันจะเสนอแนวทางทั้งหมดให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีพิจารณา จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจาณาในขั้นต่อไป
สำหรับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวขณะนี้ ยอมรับว่าเข้าสู่สถานการณ์ Stag Flation โดยเป็นเศรษฐกิจที่เกิดการหยุดชะงัก และเงินเฟ้ออยู่ คนจนไม่เงินใช้จ่ายรู้สึกฝืดเคือง ขณะที่คนรวยมีเงินไม่รู้ว่าจะนำเงินไปลงทุนอะไรจึงจะได้ผลตอบแทนเพราะยังมีความกังวล จึงทำให้ไม่มีการใช่จ่าย ไม่มีการลงทุน ดังนั้น จึงขอประเมินดูช่วงปลายปีนี้หลังรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วว่ามีผลอย่างไร จึงเตรียมหาแนวทางแก้ปัญหาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดให้ผู้บริหารกระทรวงการคลังทุกหน่วยงานทั้งกรมสรรพากร ศุลกากร สรรพสามิต เปิดช่องทางร้องเรียนจากประชาชน ทั้งผ่านเมล เฟซบุ๊ก โทร.สายด่วน ร้องเรียนในทุกช่องทางป้องกันปัญหาข้าราชการประพฤติมิชอบ ส่วนผู้กระทำดีให้แรงจูงใจ และหาทางปลูกฝังคุณธรรม เพราะเมื่อเปลี่ยนแปลงโยกย้ายคนดีไม่มีพรรคพวกจะถูกรังแกไม่เติบโต จึงต้องการเปิดให้ประชาชนร้องเรียนเข้ามาในทุกด้าน