ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงเช้าประจำวันที่ 13 ต.ค. 2557 ไปที่ 1,541.79 จุด ลดลง -10.93 จุด เปลี่ยนแปลง -0.70% มูลค่าการซื้อขาย 17,040.62 ล้านบาท ระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุด 1,548.39 จุด ละต่ำสุดที่ 1,538.35 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส สรุปภาพตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยยังคงมีแรงขายเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big cap ขณะที่กลุ่มที่ขึ้นสวนดัชนี หรือปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดกลาง และหุ้นขนาดเล็ก แสดงให้เห็นว่าปัจจัยความกังวลช่วงนี้น่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังจาก IMF และ World Bank ต่างปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP โลกลง และเป็นการปรับลงเกือบทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว
ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลที่ว่าการใช้มาตรการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ของธนาคารกลางต่างๆ จะไม่สามารถรับมือต่อการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกได้ ภายหลังจากที่เศรษฐกิจยุโรปเริ่มส่งสัญญาณที่อาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ก็ยังคงเดินหน้ายุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือมาตรการ QE ในสิ้นเดือนนี้
“ภาพรายวัน SET Index ยังไม่ผ่าน 1,562 จุด มองว่าตราบใดที่ยังไม่ผ่าน 1,562-1,576 จุด ก็ยังมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงอีกครั้งยังมีสูง ดังนั้น วันนี้ต้องลุ้นให้ดัชนีปิดตลาดสูงเหนือระดับ 1,549 จุด เพราะถ้าได้ก็จะส่งผลดีทำให้ SET อาจมีหวังฟื้นตัวต่อเนื่องในวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) จนไปทดสอบ 1,562 และ 1,576 จุด แต่ถ้าปิดต่ำกว่าเปิดจนลึกเกิน 1,544 จุด ก็แปลว่าตลาดกำลังต้องเจอกับแรงขายที่โผล่มาโจมตีกันอีกครั้ง ดัชนีอาจต้องกลับลงมาทดสอบ 1,530 จุด” นายประกิต กล่าว
พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวช่วงบ่าย ดัชนีน่าจะแกว่งในแดนลบ พร้อมแนะนำหากดัชนีสามารถรีบาวนด์ระยะสั้น ควรหาจังหวะในการขายทำกำไร โดยระยะสั้นดัชนีมีแนวรับ 1,520-1,500 จุด