ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ที่ระดับ 1,589.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด เปลี่ยนแปลง (+0.21% มูลค่าการซื้อขาย 22,095.65 ล้านบาท ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,590.19 จุด และต่ำสุดที่ 1,581.17 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบโดยเปิดตลาดในแดนลบ และสามารถดีดกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ แต่ยังต้องระวังการพักเมื่อขึ้นไปแถว 1,600 จุด โดยปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศ คือความกังวลเศรษฐกิจของประเทศหลักอาจไม่เติบโตตามคาด อย่างเช้านี้จีนประกาศตัวเลข PMI ออกมาต่ำกว่าคาด และเหตุการณ์การจลาจลในฮ่องกงที่ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด รวมทั้งรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ในวันที่ 2 ต.ค.นี้
ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพความเชื่อมั่นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯ คงแกว่งแคบต่อไป ซึ่งต้องระวังการพักตัว พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,595 จุด
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงค์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมที่ดัชนีปรับตัวลงน่าจะเป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีเป้าหมายที่ 1,600 จุดซึ่งเป็นปัจจัยลบสั้นๆ ดังนั้น ดัชนียังคงมีโอกาสรีบาวด์กลับ และเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากมีปัจจัยบวกรออยู่ช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งอาจจะมีการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา หรือการประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมไปถึงการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 2 ต.ค.
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CGD มูลค่าการซื้อขาย 959.64 ล้านบาท ปิดที่ 2.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 933.98 ล้านบาท ปิดที่ 12.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 910.77 ล้านบาท ปิดที่ 359.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 879.77 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
VGI มูลค่าการซื้อขาย 809.17 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท