“คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์” ได้ย้ายการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2557 เป็นต้นไป สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ SET กำหนด มั่นใจว่าจะสามารถสร้างแรงดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก ดันสภาพคล่องทางด้านการลงทุนสูงขึ้น ด้านผู้บริหาร “เบน เตชะอุบล” มั่นใจนักลงทุนไทย-ต่างประเทศเชื่อมั่นมากขึ้น เผยปลายปีนี้ วางแผนเปิดตัวโครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์
นายเบน เตชะอุบล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มหาชน (CGD) ว่า บริษัทได้ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ผ่านหลักเกณฑ์เรื่องผลประกอบการ การเปิดเผยข้อมูลที่ผ่านมา ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าหลังจากย้ายเข้าไปเทรดใน SET จะได้รับการตอบรับจากทั้งนักลงทุนทั่วไป นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น และช่วยลดข้อจำกัดการเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท ซึ่งจะส่งผลดีกับราคาหุ้น และแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อขยายธุรกิจในอนาคต
“การย้ายไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญของบริษัทฯ ถือเป็นช่วงเวลาที่ลงตัว และสอดคล้องกับแผนเปิดตัวโครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์อย่างเป็นทางการภายในปลายปีนี้ ซึ่งการย้ายไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความสนใจ ความไว้วางใจ และการสนับสนุนที่เพิ่มมากขึ้นจากนักลงทุน รวมทั้งได้รับประโยชน์ในด้านอื่นๆ อาทิเช่น มีตลาดทุนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การติดต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือนักลงทุนในต่างประเทศมีความคล่องตัวสูงขึ้น และในนามของคณะกรรมการบริษัทฯ ผมใคร่ขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีตลอดมา” นายเบน กล่าว
อนึ่ง บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) คือธุรกิจสายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในเครือของคันทรี่ กรุ๊ป (คันทรี่ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ การจัดการกองทุน การบริหารการลงทุน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์) ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาประกอบไปด้วยโครงการอิลีเม้นท์ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมพักอาศัย ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจและศูนย์การค้าบนถนนศรีนครินทร์บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 2,700 ล้านบาท และโครงการแลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟร้อนท์ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมพักอาศัยสูง 73 ชั้น และโรงแรมหรูระดับห้าดาว จำนวน 2 โรงแรมบนพื้นที่กว่า 36 ไร่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ด้วยการซื้อโครงการศูนย์ข้อมูล Anchorage Point Data Center เมือง Docklands กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มูลค่าโครงการประมาณ 1,350 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างรายได้และผลตอบแทนให้แก่บริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอในระยะยาวอีกด้วย
