นายทรงพล ชัญมาตรกิจ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่า เนื่องจากบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท โมโม่ อิงค์ จำกัด (มหาชน) จากประเทศไต้หวัน โดยร่วมกันดำเนินธุรกิจโฮมช้อปปิ้งในประเทศไทย จากการร่วมมือดังกล่าวส่งผลให้งบเดี่ยวของบริษัท มีผลกำไร 125 ล้านบาท เมื่อเสียภาษีแล้วจะเป็นกำไรสุทธิในงบเดี่ยวทันที 100 ล้านบาท คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบอนุมัติจ่ายเป็นปันผลทั้งจำนวน โดยแบ่งเป็นหุ้นปันผล 90 ล้านบาท และเป็นเงินสด 10 ล้านบาท โดยเตรียมนำเรื่องเข้าขออนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ ในวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557
ทั้งนี้ บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจ่ายเงินปันผลติดต่อกันมากว่า 5 ปีในอัตราไม่น้อยกว่า 55% ของผลกำไรสุทธิ
นายทรงพลกล่าวต่อถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสชท.) มีความตั้งใจในการผลักดันธุรกิจ TV Digital อย่างจริงจัง ประกอบกับรายการโทรทัศน์ของ TV Digital เองก็มีคุณภาพและได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 8 ช่อง Workpoint ช่อง Nation ช่อง ไทยรัฐ เป็นต้น จึงทำให้บริษัทมีเชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ชมจะเริ่มมีการกระจายตัวไปยังช่องต่างๆ มากขึ้นไม่กระจุกตัวเหมือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การขายสินค้าทางทีวีจะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามปริมาณมีเดียที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในครั้งนี้ โดยจะมุ่งเน้นในการซื้อเวลาโฆษณา (Commercial) มากกว่าการเช่ารายการโทรทัศน์ (Infomercial) ยิ่งไปกว่านั้น เป็นแนวการตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญมากในอดีต แต่เนื่องด้วยเวลาของฟรีทีวีช่วงก่อนหน้านี้มีจำกัด จึงยากต่อการเข้าซื้อ มาวันนี้ประเทศไทยมีสถานีโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 6 ช่องเป็น 18 ช่อง (ช่องพาณิชย์โฆษณาได้ 100%) ทำให้บริษัทมีโอกาสใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของเราได้อย่างเต็มที่ ตามสโลแกน "โอ้ จอร์จ มันยอดมาก"
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมขยายร้านค้าปลีกเพื่อรองรับทั้งพื้นที่ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นในแต่ละพื้นที่และแต่ละจังหวัด อีกทั้งเป็นการรองรับปริมาณการโฆษณาเพิ่มขึ้นตามแผนดังกล่าวข้างต้น โดยภายในปี 2557 จะมีร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 77 สาขาเป็น 83 สาขา ทำให้การครอบคลุมพื้นที่การขายและการจัดส่งสินค้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น จึงเตรียมปรับเป้ารายได้ในปีนี้ขึ้นเป็นเติบโต 20% จากเดิมที่วางเป้าหมายไว้ที่ 15% หรือทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,504 ล้านบาท นายทรงพล กล่าวทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ
ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากำไรจากการโอนบริษัทลูกออกไปให้พันธมิตรถือและบริษัทรับรู้กำไรเข้ามาในไตรมาส 2/2557 ที่ผ่านมานั้น และ TVD ได้แจ้งว่าจะจ่ายปันผลในอัตราพิเศษ ทั้งจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา หุ้นแม่ 1 หุ้น เดิมต่อ 0.38 หุ้นปันผล และเงินสดในอัตรา 0.02 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะให้อัตราผลตอบแทน (Yield) สูงถึง 38% โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจ่ายเงินปันผลติดต่อกันมากว่า 5 ปีในอัตราไม่น้อยกว่า 55% ของผลกำไรสุทธิ
นายทรงพลกล่าวต่อถึงกรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสชท.) มีความตั้งใจในการผลักดันธุรกิจ TV Digital อย่างจริงจัง ประกอบกับรายการโทรทัศน์ของ TV Digital เองก็มีคุณภาพและได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 8 ช่อง Workpoint ช่อง Nation ช่อง ไทยรัฐ เป็นต้น จึงทำให้บริษัทมีเชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ชมจะเริ่มมีการกระจายตัวไปยังช่องต่างๆ มากขึ้นไม่กระจุกตัวเหมือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การขายสินค้าทางทีวีจะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามปริมาณมีเดียที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในครั้งนี้ โดยจะมุ่งเน้นในการซื้อเวลาโฆษณา (Commercial) มากกว่าการเช่ารายการโทรทัศน์ (Infomercial) ยิ่งไปกว่านั้น เป็นแนวการตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญมากในอดีต แต่เนื่องด้วยเวลาของฟรีทีวีช่วงก่อนหน้านี้มีจำกัด จึงยากต่อการเข้าซื้อ มาวันนี้ประเทศไทยมีสถานีโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 6 ช่องเป็น 18 ช่อง (ช่องพาณิชย์โฆษณาได้ 100%) ทำให้บริษัทมีโอกาสใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของเราได้อย่างเต็มที่ ตามสโลแกน "โอ้ จอร์จ มันยอดมาก"
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมขยายร้านค้าปลีกเพื่อรองรับทั้งพื้นที่ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นในแต่ละพื้นที่และแต่ละจังหวัด อีกทั้งเป็นการรองรับปริมาณการโฆษณาเพิ่มขึ้นตามแผนดังกล่าวข้างต้น โดยภายในปี 2557 จะมีร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นจาก 77 สาขาเป็น 83 สาขา ทำให้การครอบคลุมพื้นที่การขายและการจัดส่งสินค้ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น จึงเตรียมปรับเป้ารายได้ในปีนี้ขึ้นเป็นเติบโต 20% จากเดิมที่วางเป้าหมายไว้ที่ 15% หรือทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,504 ล้านบาท นายทรงพล กล่าวทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ
ด้านนายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ากำไรจากการโอนบริษัทลูกออกไปให้พันธมิตรถือและบริษัทรับรู้กำไรเข้ามาในไตรมาส 2/2557 ที่ผ่านมานั้น และ TVD ได้แจ้งว่าจะจ่ายปันผลในอัตราพิเศษ ทั้งจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา หุ้นแม่ 1 หุ้น เดิมต่อ 0.38 หุ้นปันผล และเงินสดในอัตรา 0.02 บาท ต่อหุ้น ซึ่งจะให้อัตราผลตอบแทน (Yield) สูงถึง 38% โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น