xs
xsm
sm
md
lg

ตลท. เตรียมทำระบบตัวกลางซื้อขายกองทุนรวม ด้านนายกฯ บลจ. เตรียมหารือขุนคลังหนุนการลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมทำระบบตัวกลางซื้อขายกองทุนรวม คาดเปิดให้บริการได้ในปีหน้า พร้อมเชิญผู้บริหาร บลจ.ทั้งหมด เข้ามาหารือถึงแผนการดำเนินงานในปีหน้าในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น ด้านนายกสมาคม บลจ.เตรียมเข้าพบ “สมหมาย” รมว.คลัง เพื่อให้ข้อมูล LTF ก่อนตัดสินต่ออายุหรือไม่

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. เตรียมทำระบบกลางเพื่อซื้อขายกองทุนรวม โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในต้นปีหน้า ซึ่งการทำระบบกลางครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับนักลงทุนในการเข้ามาซื้อขายได้ง่ายขึ้น และจะสามารถซื้อขายกองทุนได้ทุก บลจ. โดยเฟสแรกจะเริ่มต้นในปีหน้าโดยการให้ตัวแทนจำหน่ายกองทุน (Selling Agent) ส่งคำสั่งซื้อขายมาที่ตลาดฯ และตลาดฯ จะมีการส่งข้อมูลไปให้แต่ละ บลจ.ในการชำระราคา และในเฟสที่สองนั้นตลาดหลักทรัพย์ จะทำระบบในการซื้อขายกองทุนผ่านอินเทอร์เน็ตต่อไป

ทั้งนี้ การทำระบบกลางซื้อขายกองทุน ขณะนี้ทางตลาดหลักทรัพย์จะมีการสอบถามไปยัง บลจ.ถึงความสนใจในการให้ตลาดหลักทรัพย์ทำระบบกลางซื้อขายกองทุน โดยคาดว่าน่าจะเสร็จในปีหน้า ซึ่งเฟสแรกจะเป็นลักษณะ Fund Settlement โดยการให้ Selling Agent ส่งคำสั่งการซื้อขายมาที่ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์จะส่งข้อมูลต่างๆ ไปยัง บลจ. ซึ่ง Selling Agent 1 ราย จะมีการขายหน่วยให้หลาย บลจ. ซึ่งตรงนี้จะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและหลังจากนั้นเฟสสองตลาดหลักทรัพย์จะมีการทำระบบให้สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านออนไลน์ต่อไป เพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้ามาซื้อขายหน่วยลงทุนได้สะดวกมากขึ้น

โดยในวันนี้ (22 ก.ย.) ตลาดหลักทรัพย์ได้มีการเชิญผู้บริหาร บลจ.ทั้งหมดเข้ามาหารือถึงแผนการดำเนินงานในปีหน้าในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น เช่น โครงการให้เงินทำงานกับกองทุนรวม, การจัดงานมหกรรมกองทุนรวมที่มีต่อเนื่อง และจะมีการกระตุ้นให้ประชาชนให้ออมผ่านกองทุนทุกเดือน

ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) เปิดเผยว่า ในเดือนหน้า สมาคมฯ จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) โดยจะมีการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่มีการลงทุนใน LTF ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร และเห็นว่าควรจะให้มีการต่ออายุหรือไม่ เพื่อนำไปเสนอต่อ รมว.คลัง

ทั้งนี้ หากไม่มีการต่ออายุกองทุนดังกล่าว จะส่งผลให้ประชาชนหยุดชะงักในการออมหุ้นระยะยาว ซึ่งจะมีผลทำให้สัดส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศลดลง และทำให้ตลาดทุนขาดความแข็งแรงจากนักลงทุนสถาบันสัดส่วนที่น้อยลง ปัจจุบันนักลงทุนสถาบันมีสัดส่วนการซื้อขายต่อวันที่ 9-10% จากในอดีตก่อนที่จะมี LTF อยู่เพียง 4-5 % เท่านั้น

สำหรับกองทุน LTF ถือเป็นกองทุนที่ดีที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมในหุ้นระยะยาว ซึ่งจากในอดีตที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในหุ้นระยะยาวเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด และนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุน LTF นั้นทำให้มีความรู้ในการลงทุนมากขึ้น และมีการเริ่มหันไปลงทุนในกองทุนหุ้นประเภทอื่นๆ มากขึ้น โดยกองทุน LTF นั้นผู้ที่เข้ามาลงทุนส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ใช่เป็นมาตรการช่วยคนรวยอย่างที่กังวล โดยหากมีการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF จะทำให้ผู้ถือหน่วยอาจจะมีการขายออกมาในระบบบ้าง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ แต่จากข้อมูลการลงทุนในกองทุนรวมปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นกองทุน LTF 2.4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ สมาคม บลจ.จะมีการเข้าพบ รมว.คลัง เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนใน LTF เพื่อให้ รมว.คลังใช้ประกอบในการตัดสินใจว่าจะต่ออายุหรือไม่ โดยทางสมาคมฯ มองว่า กองทุน LTF เป็นกองทุนที่ดีที่ส่งเสริมให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นระยะยาว เพื่อออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ซึ่งหากไม่มีกองทุนนี้จะทำให้เม็ดเงินหยุดชะงัก และอาจมีผลทำให้นักลงทุนสถาบันในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ลดลง ทำให้ตลาดทุนขาดเสถียรภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น