ประธาน ส.ตลาดทุนฯ มองหุ้นไทยช่วงนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ เพื่อรอดูผลงาน ครม.ชุดใหม่ แต่มีโอกาสผันผวนสูง เพราะมีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นตัวเล็ก เผยตลาดฯ ไม่กังวลผลประชุมเฟด เพราะรับรู้ข่าวไปแล้ว ฟันธงยังไม่ปรับขึ้น ดบ. พร้อมย้ำทิศทางหุ้นไทยจะปรับขึ้นไปเหนือ 1,600 จุดได้ ขึ้นอบู่กับการดำเนินนโยบายของ รบ. จะเป็นไปตามที่ประกาศไว้หรือไม่
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองภาวะตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ โดยคาดว่าจะแกว่งตัวกรอบแคบๆ รอดูผลงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ว่าจะมีการดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้หรือไม่ แต่ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้น่าจะมีความผันผวนสูงจากมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็ก
ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กลางสัปดาห์นี้ นักลงทุนทั่วโลกจับตาดูว่าจะมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ประกาศไว้หรือไม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเฟดจะไม่รีบร้อนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่หากเฟดมีการส่งสัญญาณจะมีการปรับดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ อาจจะมีแรงเทขายหุ้นออกมาบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่มาก ส่วนมาตรการ QE ที่จะหมดในเดือนหน้านั้น เชื่อว่าตลาดจะไม่กังวลเพราะรับรู้ข่าวไปแล้ว
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยขณะนี้ใกล้ 1,600 จุด ซึ่งถือว่าเต็มมูลค่า และมีราคาสูงไปแล้ว แต่หากรัฐบาลดำเนินการนโยบายเป็นไปตามที่ประกาศไว้ ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังไม่แพง ปีหน้าดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าดัชนีหุ้นไทยปีหน้าจะอยู่ที่ระดับเท่าไหร่ เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ เช่น ครม.ปฏิบัติงานไม่ได้เป็นไปตามที่แถลงไว้หรือไม่ รวมถึงสถานการณ์เสี่ยงในต่างประเทศ
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ยังกล่าวในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ โดยระบุว่า ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา บล.ทิสโก้ ได้มีการพาบริษัทจดทะเบียน จำนวน 8 บริษัท นำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ที่นิวยอร์ก ซึ่งกองทุนต่างประเทศให้ความสนใจในการรับฟังข้อมูลจำนวนมาก ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับสถานะการเมืองไทย และนโยบายของรัฐบาลใหม่ โดยบริษัทที่พาไปโรดโชว์ประกอบด้วย PTT, CPF, TUF, ROBINS, TISCO และ HEMRAJ
