หุ้นไทยแกว่งแคบปิดร่วง 3.54 จุด นักลงทุนรอผลประชุมอีซีบี ซึ่งคาดว่าจะออกมาตรการคิวอีแน่ ส่วนในประเทศจับตาข่าวเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ โดยยังให้น้ำหนักมุมมองเชิงบวกมากกว่า เพื่อลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่หลุดแนวรับ 1,555 จุด หากหลุดอาจเห็นการปรับฐานรอบใหญ่อีกครั้ง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 ก.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,579.73 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 52,895.23 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,586.93 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,576.80 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบทั้งแดนบวก และลบสลับกันไป เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนนี้เป็นหลัก หลังจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้วยการใช้มาตรการ QE ซึ่งมีอยู่ราว 50% คาดว่าอีซีบีจะออกมตราการ QE อย่างแน่นอน
อีกทั้งจีนเองก็จับตาดูผลการประชุมเช่นเดียวกัน เพราะหากอีซีบีออกมาตราการ QE จริง จีนซึ่งมีข่าวว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการการออก mini stimulus package อาจจะชะลอไว้ก่อน ส่วนในประเทศยังคงคาดว่า คสช. จะยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
โดยในวันพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ โดยให้น้ำหนักมุมมองเชิงบวกมากกว่า เพื่อลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่หลุดแนวรับ 1,555 จุด หากหลุดอาจเห็นการปรับฐานรอบใหญ่อีกครั้ง โดยมีปัจจัยต่างประเทศเข้ามากระทบเป็นหลัก หลังตลาดรับข่าวปัจจัยในประเทศไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
สำหรับด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่มองว่า laggard เช่น KKP-TCAP-PTTEP-BANPU-AAV-NOK และทยอยขายหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2-3 ปี โดยประเมินแนวรับ 1,575-1,565 จุด แนวต้าน 1,585-1,590 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 ก.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,579.73 จุด ลดลง 3.54 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.22% มูลค่าการซื้อขาย 52,895.23 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,586.93 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,576.80 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบทั้งแดนบวก และลบสลับกันไป เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนนี้เป็นหลัก หลังจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้วยการใช้มาตรการ QE ซึ่งมีอยู่ราว 50% คาดว่าอีซีบีจะออกมตราการ QE อย่างแน่นอน
อีกทั้งจีนเองก็จับตาดูผลการประชุมเช่นเดียวกัน เพราะหากอีซีบีออกมาตราการ QE จริง จีนซึ่งมีข่าวว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการการออก mini stimulus package อาจจะชะลอไว้ก่อน ส่วนในประเทศยังคงคาดว่า คสช. จะยกเลิกกฎอัยการศึกบางพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
โดยในวันพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ โดยให้น้ำหนักมุมมองเชิงบวกมากกว่า เพื่อลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แต่อย่างไรก็ตาม ต้องไม่หลุดแนวรับ 1,555 จุด หากหลุดอาจเห็นการปรับฐานรอบใหญ่อีกครั้ง โดยมีปัจจัยต่างประเทศเข้ามากระทบเป็นหลัก หลังตลาดรับข่าวปัจจัยในประเทศไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
สำหรับด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่มองว่า laggard เช่น KKP-TCAP-PTTEP-BANPU-AAV-NOK และทยอยขายหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2-3 ปี โดยประเมินแนวรับ 1,575-1,565 จุด แนวต้าน 1,585-1,590 จุด
