xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทย ส.ค.พุ่งรับข่าวตั้งรัฐบาลใหม่ ตลท.หวั่นยกเลิกสิทธิภาษี LTF/RMF กระทบกองทุนออมหลังเกษียณวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สรุปภาวะการซื้อขายหุ้นเดือนสิงหาคม ปรับตัวบวกต่อเนื่องรับกระแสข่าวการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศกลับขึ้นมาจากงาน Thailand Focus ดัน SET INDEX ปรับบวกขึ้น 1,561.63จุด เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 20.24% จากสิ้นปี 2556 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.10% หลังการเข้ามาบริหารของ คสช.

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเดือนสิงหาคมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้สถานการณ์การเมืองในประเทศมีความชัดเจนขึ้น รวมทั้งแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจสามารถดำเนินตามแผนโรดแมปที่วางไว้ รวมทั้งเศรษฐกิจไตรมาส 2 ฟื้นตัวอย่างชัดเจน และนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนอย่างเห็นได้ชัดเจนขึ้นหลังเสร็จจากงาน Thailand Focus เมื่อวันที่ 27-29 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยดัชนี ณ สิ้นเดือนที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นถึง 1,561.63 จุด เพิ่มขึ้น 20.24% จากสิ้นปี 2556 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.10% หลังการเข้ามาบริหารของ คสช. ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของทั้ง SET และ mai อยู่ที่ 50,973 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด Market Cap ของตลาดหุ้นไทย (SET) ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 14.03 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.95 จากเดือนกรกฎาคม ขณะที่ของตลาดหลักทรัพย์ mai อยู่ที่ 305,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้นปรับร้อยละ 14.26 จากเดือนกรกฎาคม 2557

ขณะที่ น.ส.ปิญาภรณ์ สดศรีวิบูลย์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า การลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ถือเป็นการลงทุนระยะยาวโดยสมัครใจ เพื่อสร้างความมั่นคงหลังวัยเกษียณ และเป็นการช่วยลดภาระด้านการคลังในการดูแลผู้สูงอายุในอนาคต ซึ่งยืนยันว่า การลงทุนใน LTF และ RMF บุคคลที่ได้ประโยชน์คือ คนชั้นกลาง และเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีรายได้ปานกลางลงทุนใน LTF มากที่สุดถึงร้อยละ 50 ของผู้ถือหน่วยลงทุน และประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ถือหน่วยซื้อสะสมต่อเนื่องในระยะยาว และร้อยละ 20 ของนักลงทุน ถือกองทุน LTF จะไม่มีการขายหน่วยลงทุน ดังนั้น หากมีการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะมีผลกระทบต่อจิตวิทยาที่จะทำให้การลงทุนในกองทุน LTF และ RMF มีปริมาณลดลง

อย่างไรก็ดี นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงทุนใน LTF และ RMF เป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งเสริมการออมในรูปแบบอื่นๆ นอกจากเงินฝาก และผลตอบแทนที่มากกว่า โดยจากสถิติพบว่า ตั้งแต่ปี 2546-2557 การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนร้อยละ 21.6 ทองคำ ร้อยละ19.2 พันธบัตรร้อยละ 4.1 และเงินฝาก ร้อยละ 2.1 ซึ่งการลงทุนในหุ้นถือเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง และสามารถสู้กับอัตราเงินเฟ้อในตลาดได้ โดยล่าสุด ณ เดือนสิงหาคม กองทุน LTF มีมูลค่า 242,992 ล้านบาท และ RMF มีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งสิ้น 58,499 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น