หลายคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ความฝันของ First Jobber (วัยเริ่มทำงาน) นอกจากอยากมีรถยนต์ส่วนตัวแล้ว ยังอยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ต้องการพื้นที่ส่วนตัว (My Space) และการซื้อคอนโดมิเนียม ก็เป็นสุดยอดความปรารถนาของคนวัยนี้ ทำให้ผู้ประกอบการหลายเจ้าเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมราคาถูกเพื่อเอาใจเหล่า First Jobber ที่กำลังลังเลใจว่าจะเช่าหอพัก หรือจะซื้อคอนโดฯ ราคาถูกเก็บเอาไว้เลยดี วันนี้ TerraBKK Research มีคำตอบมาให้ สำหรับคนที่กำลังลังเลใจว่าทางเลือกไหนจะคุ้มกว่ากัน
ในความคิดของ First Jobber ที่กำลังเช่าหอพัก/คอนโดฯ อยู่นั้น บางคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าเราเอาเงินที่จ่ายค่าเช่ารายเดือน ไปผ่อนกับธนาคารในอัตราที่เท่าๆ กันนี้ แถมยังได้ห้องชุดมาเป็นของตัวเองอีก 1 ห้อง อยู่ไปสักพักค่อยขายทิ้ง ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ซื้อคอนโดฯ แล้วผ่อนเลยไม่ดีกว่าหรือ? ดีกว่าต้องมาเสียค่าเช่ารายเดือนไปเปล่าๆ แล้วไม่ได้อะไรกลับมา ดังนั้น TerraBKK Research จะขอยกตัวอย่างกรณีศึกษาขึ้นมา 1 ตัวอย่างดังนี้
“น.ส.ชวนฝัน อายุ 25 ปี เช่าหอพักย่านบางนาด้วยค่าเช่า 4,000 บาท/เดือน ชวนฝัน เริ่มมีความคิดที่จะอยากซื้อคอนโดฯ ไว้เป็นของตัวเอง แต่คอนโดฯ นี้เธอจะอยู่แค่ 5 ปีแล้วขายทิ้ง เพราะย้ายที่ทำงาน ดังนั้น เธอจึงแบ่งพิจารณาเป็น 2 ด้านดังนี้
1.เช่าหอพัก/คอนโดฯ 4,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยค่าเช่าสามารถเพิ่มขึ้นได้ 3% ทุกๆ 2 ปี
2.ซื้อคอนโดฯ มือสองในราคา 1,000,000 บาท ผ่อนเป็นระยะเวลา 30 ปี งวดละ 4,700 บาท โดยชวนฝันคิดว่าเพิ่มอีกแค่เดือนละ 700 บาท สามารถเป็นเจ้าของห้องได้เลย แล้วสุดท้ายค่อยขายทิ้งในปีที่ 5 ในราคา 1,200,000 บาท”
น.ส.ชวนฝัน ต้องพิจารณาอย่างละเอียดทั้ง 2 ทางเลือกดังนี้
ทางเลือกที่ 1: เช่าหอพัก/คอนโดฯ 4,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยค่าเช่าสามารถเพิ่มขึ้นได้ 3% ทุกๆ 2 ปี
จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า ถ้าเช่าหอพัก/คอนโดฯ เป็นระยะเวลา 5 ปี จะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 245,803 บาท
ทางเลือกที่ 2 : ซื้อคอนโดฯ มือสองในราคา 1,000,000 บาท แล้วขายทิ้งในปีที่ 5 ในราคา 1,200,000 บาท
โดยมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
และเงื่อนไขอัตราผ่อนชำระ ดังนี้ สมมติอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดย MLR = 6.75%
ปีที่ 1 คิด MLR -2.5% ดอกเบี้ย = 4.25%
ปีที่ 2 คิด MLR -1.5% ดอกเบี้ย = 5.25%
ปีที่ 3 เป็นต้นไป คิด MLR -0.5% ดอกเบี้ย = 6.25% ซึ่งมีอัตราผ่อนชำระแต่ละปีดังนี้
เมื่อนำรายละเอียดมาพิจารณาเป็นรายปี จะได้ดังนี้
จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า ถ้าซื้อคอนโดฯ 1,000,000 บาท 5 ปี ขายต่อในราคา 1,200,000 จะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 320,790 บาท
สรุปความแตกต่างระหว่าง 2 ทางเลือก ทางเลือกที่ 1 : รวมค่าใช้จ่าย (Net Expense) 245,803 บาท
ทางเลือกที่ 2 : คงเหลือขาดทุน (Net Loss) 320,790 บาท
เมื่อพิจารณาจนครบทั้ง 2 ทางเลือกแล้ว จะเห็นได้ว่าการซื้อคอนโดฯ แล้วขายต่อภายใน 5 ปี จะสร้างภาระค่าใช้จ่ายมากกว่าการเช่าอยู่ไปเรื่อยๆ ดังนั้น น.ส.ชวนฝัน ควรเช่าหอพัก/คอนโดฯ อยู่ต่อไป เพราะการซื้อคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัยแล้วขายต่อนั้น ไม่คุ้มที่จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมในการซื้อ-ขาย แม้ในบางกรณีจะมีโปรโมชันยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนฯ หรือฟรีค่าจดจำนองแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้มากนัก ดังนั้น การตัดสินใจซื้อคอนโดฯ ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร่
สุดท้ายนี้ TerraBKK Research ขอแนะนำ น.ส.ชวนฝัน วัย First Jobber ที่เริ่มมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองว่า ไม่ว่าจะซื้อคอนโดฯ ใหม่ คอนโดฯ มือสอง หรือที่อยู่อาศัยอื่นๆ นั้น ควรจะต้องคิดให้รอบคอบ ทุกค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งตอนซื้อ และตอนขาย อย่าตัดสินใจซื้อเพียงเพราะมองแบบผิวเผินว่าคุ้มค่า หรือตามกระแสเพื่อนไป
ที่มา:www.TerraBKK.com