ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงเช้าวันที่ 4 กันยายน 2557 ไปที่ 1,582.88 จุด ลดลง 0.39 จุด เปลี่ยนแปลง -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 29,519.20 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,586.93 จุด ต่ำสุดที่ 1,578.29 จุด
นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดซึมซับข่าวดีมาพอสมควรแล้ว และยังไม่มีอะไรใหม่มาหนุนตลาด เพราะการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้ ECB จะลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.1% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.05% และดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 0.2% และจะเข้าซื้อพันธบัตรที่ใช้สินทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-baked securities: ABS) ในสิ้นปีนี้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นตามกรอบที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้ไว้ ซึ่งยังอาจจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นรายกลุ่มได้ อย่างไรก็ตาม ทางด้านเศรษฐกิจปีนี้อาจจะดูย่ำแย่กว่าหลายปีที่ผ่านมา จากปัญหาการเมืองที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะทำให้เห็นนักเศรษฐศาตร์ยังคงออกมาปรับลดประมาณการ GDP Growth ในปีนี้ลงอีก แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องถึงปีหน้า ภายใต้สมมติฐานการเมืองที่นิ่ง จนกว่าจะกลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ เมื่อเปิดทางให้กลับไปสู่การเลือกตั้งอีกครั้งในปลายปลายปี 2558
ดังนั้น จึงคาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีช่วงบ่ายน่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน และราคายังต่ำกว่า Fair Value ฝ่ายวิจัยเลือก 4 บริษัทที่โดดเด่นได้แก่ STPI, DEMCO, RML และ GFPT
ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ เศรษฐกิจภายในประเทศมีการฟื้นตัวขึ้น แม้มีภาวะอ่อนแรงอยู่บ้างอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษีการบริโภคเมื่อเดือนเมษายน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย
