“สมาร์ทคอนกรีต” เคาะราคาไอพีโอ 1.90 บาท เปิดจองสำหรับ Pre-emptive 17-20 ก.ย 57 และเปิดจองสำหรับ IPO 22-24 ก.ย. 57 เข้าเทรด เอ็ม เอ ไอ 2 ต.ค. 57 ระดมทุนลงเครื่องจักรเพิ่ม ขยายกำลังการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้าน APM ที่ปรึกษาการเงินชี้ธุรกิจมีแววเติบโตโดดเด่น เดินหน้าโรดโชว์ 11 จังหวัด เริ่ม1-12 ก.ย.นี้ โนมูระ ผู้จัดการการจำหน่ายหุ้น มั่นใจกระแสตอบรับดี ฟินันเซีย ฟิลลิป เออีซี อาร์เอชบี โอเอสเค โกลเบล็ก และไอร่า ตบเท้าร่วมจำหน่าย
นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังภายในอาคาร เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 115 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาเสนอขาย หุ้นละ 1.90 บาท โดยจะเปิดจองสำหรับ Pre-emptive ในวันที่ 17-20 ก.ย. 57 และทำการเสนอขายในระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย. 57 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 2 ต.ค. 57
สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ SMART จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยบริษัทจะลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรเดิมให้สามารถผลิตผนังมวลเบา (PANEL) และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมความพร้อมให้กับอิฐมวลเบา เช่น คานสำเร็จรูป (LINTEL) รวมทั้งขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 6 ล้านตารางเมตร/ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางเมตร/ปี โดยบริษัท คาดว่า จะเริ่มดำเนินการภายในปี 2558 ใช้งบประมาณสำหรับการลงทุนดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาท
“SMART มีแผนขยายตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทมุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและการใช้งาน ปัจจุบัน การแข่งขัน ศักยภาพผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบายังมีไม่มาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ลงทุนค่อนข้างสูง ต้องอาศัย know how ประสบการณ์ ในการเรียนรู้และปรับปรุงเพื่อให้ได้สูตรการผลิตที่เหมาะสม มีอัตราส่วนสูญเสียต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งแต่ละรายในตลาด” นายประทีป กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า SMART ถือเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาของประเทศที่มีความโดดเด่นในการเติบโตทางธุรกิจ มีความเชี่ยวชาญในการผลิตอิฐมวลเบาคุณภาพสูงมากว่า 10 ปี จนปัจจุบัน “SMART บล็อคเย็น” เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายแห่ง เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีนโยบายการตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการ Packing อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของ ภาคก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ในประเทศ และเกิดความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสในการขยายตลาดเข้าสู่ประเทศในกลุ่ม AEC ที่จะมีการลงทุนในโครงการรูปแบบต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากในช่วงต่อจากนี้ การระดมทุนของบริษัทในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตสินค้ารองรับคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นได้อย่างเพียงพอ และเป็นการสร้างโอกาสเตรียมรองรับการเติบโตอย่างมีศักยภาพต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-12 ก.ย. 57 SMART จะทำการเดินสายโรดโชว์แนะนำความโดดเด่นของธุรกิจและให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในจังหวัดต่างๆ รวม 11 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี นครสวรรค์ อุบลราชธานี เชียงใหม่ สงขลา และกรุงเทพฯ คาดว่าการโรดโชว์ของบริษัทในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เปิดเผยว่า SMART เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการเติบโตขณะที่ธุรกิจอิฐมวลเบามีแนวโน้มขยายตัวได้ดีทั้งในและต่างประเทศ ราคาหุ้น SMART ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนในราคา 1.90 บาท จึงถือเป็นระดับราคาที่มีความน่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานและโอกาสทางธุรกิจของบริษัท เชื่อว่าการเปิดจองหุ้น IPO ในระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย นี้ จะได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักลงทุน
ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ SMART มีผู้จัดจำหน่ายร่วม ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ไอ ร่า จำกัด (มหาชน)