xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาคึกคักยักษ์ใหญ่ผุดค้าปลีก รร. คอนโดฯ หรูเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรเชษฐ กองชีพ
คอลลิเออร์สฯ เผยผลสำรวจอสังหาฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบราคาที่ดินในฝั่งธนบุรีแตะ 3.5 แสนบาท/ตร.ว. ปรับขึ้นกว่า 300% ระบุ บริษัทยักษ์ใหญ่เร่งพัฒนาทั้งโรงแรม ห้าง คอนโดฯ ระดับ Luxury

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ณ ครึ่งแรกปี พ.ศ.2557 อยู่ที่ประมาณ 16,450 ยูนิต โครงการส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดฯ ระดับ Luxury มีคอนโดฯ ระดับ High-end เปิดขายหลายโครงการ แต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน นอกจากนี้ ยังมีโครงการพื้นที่ค้าปลีกและโรงแรมอีกหลายแห่งเช่นกันที่เปิดให้บริการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในขณะที่อีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจำนวนที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเหลือไม่มากในปัจจุบันส่งผลให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก

ปัจจุบันราคาซื้อขายที่ดินในฝั่งธนบุรีในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2554 อยู่ที่ประมาณ 110,000 บาทต่อตารางวา แต่ปรับเพิ่มขึ้นมาตลอดในช่วง 2-3 ปีหลังจากนั้นโดยราคาซื้อขายในปี พ.ศ.2554 อยู่ที่ประมาณ 265,000 บาทต่อตารางวา หรือปรับเพิ่มขึ้น 240% แต่ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 350,000 บาทต่อตารางวา ปรับขึ้นมามากกว่า 300% เพราะที่ดินที่มีศักยภาพในฝั่งธนบุรีนั้นแม้ว่าจะยังมีเหลืออยู่แต่อาจอยู่ในทำเลที่ไม่ดีนัก

จากราคาที่ดินที่ปรับขึ้นสูงมาก รวมถึงข้อจำกัดในช่วงระยะ 45 เมตรแรก จากริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ห้ามสร้างอาคารสูง ทำให้การพัฒนาโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ต้องพัฒนาโครงการระดับ Luxury ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม หรือโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ที่มีพื้นที่ค้าปลีกเป็นหลักสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ เช่น สร้างพื้นที่ค้าปลีกมาสนับสนุน หรือสร้างแรงดึงดูดใจคนซื้อโดยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยผสมผสานกับโรงแรมเพื่อให้ผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียมสามารถปล่อยเช่ายูนิต ของตนเองผ่านโรงแรมในโครงการได้ อีกทั้งการที่มีผู้ให้บริการโรงแรมมาเป็นผู้บริหารพื้นที่ส่วนกลางก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการได้เช่นกัน หรือทำโครงการพื้นที่ค้าปลีกอย่างเดียวแบบ Asiaitque the Riverfont ที่ประสบความสำเร็จและจะขยายโครงการที่ 2 เพิ่มเติมบนที่ดินที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม

“พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตามถนนพระราม 3 ยังคงมีที่ดินว่าเปล่าอีกหลายแปลงที่รอการพัฒนา โดยบางแปลงบอกขายพร้อมกับใบอนุญาตก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่ในปัจจุบันที่ดินแปลงนี้ไม่สามารถสร้างได้ตามกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน” นายสุรเชษฐ กล่าว

โครงการที่อยู่ในแผนการพัฒนาในอนาคต ได้แก่ 1. ไอคอนสยาม ของกลุ่มสยามพิวรรธน์ และแมกโนเลียที่ประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 525,000 ตารางเมตร คอนโดมิเนียม 2 อาคาร คือ อาคารสูง 70 ชั้น 300 ยูนิต และอาคารสูง 50 ชั้น 140 ยูนิต เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 5 หมื่นล้านบาท คาดว่า จะแล้วเสร็จปี 2560, 2. เดอะเพนนินซูล่า เรสซิเดนท์อยู่ภายในโครงการโรงแรมเพนนินซูล่า, 3. แคลพสัน เดอะริเวอร์ เรสซิเดนท์อยู่ภายในโครงการคอนโดมิเนียมเดอะริเวอร์, 4. แลนด์มาร์ค วอเตอร์ฟรอนท์ของกลุ่มคันทรี่กรุ๊ป ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมสูง 73 ชั้น 350 ยูนิต เป็นสิทธิการเช่า และโรงแรม 2 โรงแรมโดยคาดว่า จะใช้งบลงทุนประมาณ 16,000 - 17,000 ล้านบาท

5. เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์โครงการ 2 ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเดิม และเชื่อมต่อกันด้วยกระเช้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยังไม่มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจนเปิดเผยออกมา, 6. โครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ อยู่ภายในโครงการโรงแรมแม่น้ำ จำนวน 294 ยูนิต คาดว่า จะแล้วเสร็จปี พ.ศ.2559, 7. โรงแรมอวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ของกลุ่มไมเนอร์ริมถนนเจริญนคร และ 8. ที่ดินของบริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) จำนวน 10 ไร่เศษ ข้างโครงการเดอะริเวอร์ ที่อยู่ระหว่างการประมูล ซึ่งคาดว่าน่าจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Luxury


กำลังโหลดความคิดเห็น