ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วงเช้าวันที่ 25 ส.ค.2557 ปิดที่ระดับ 1,563.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด เปลี่ยนแปลง +0.39% มูลค่าการซื้อขาย 18,625.42 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,563.75 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,558.19 จุด
นักวิเคราะห์ บล.เคที ซีมิโก้ สรุปความเคลื่อนไหวช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้นได้จากความคาดหวังโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี ประกอบกับมีความคาดหวังจากการจัดงาน Thailand Focus ช่วงกลางสัปดาห์ที่จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ และกองทุนเข้ามามากขึ้น
ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบคละกัน หลังจากกลับมากังวลสถานการณ์ยูเครนอีกครั้ง ส่วนดอกเบี้ยสหรัฐฯ คาดยังไม่ขึ้นในช่วงสั้น เหตุตลาดแรงงานโดยรวมยังซบเซา บ่ายนี้ตลาดฯ คงยืนแดนบวกได้ แต่ระหว่างเทรดอาจมีเหวี่ยงบ้าง พร้อมให้กรอบแกว่งตัวที่ 1,555-1,565 ถัดไปก็เป็น 1,570 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,563.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด (+0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 18,625.42 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ดี โดยเปิดตลาดมาก็ขึ้นไปเหนือระดับ 1,560 จุดได้เลย คาดว่ จะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่รับสนองพระบรมราชโองการดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการเช้านี้
นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ยังได้แรงหนุนจากการจัดงาน Thailand Focus ด้วย ซึ่งมองเป็นผลบวก เพราะมักจะประสบความสำเร็จสามารถดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ และบรรดากองทุนเข้ามาได้เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ แนะจับตาดูกองทุนในประเทศ ซึ่งจะมีทริกเกอร์ฟันด์หลายกองกำลังทยอยออกมา
ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบคละกัน คาดนักลงทุนต่างซึมซับความเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น ในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล เพื่อจับสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับนโยบายการเงิน รวมทั้งจับตาสถานการณ์การเจรจาในประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน
พร้อมคาดแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายว่า ตลาดฯ คงจะยืนในแดนบวกได้ต่อ แต่ระหว่างเทรดอาจเหวี่ยงตัวได้บ้าง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,555-1,565 จุด ถัดไปก็เป็น 1,570 จุด คำแนะนำ Let Profit Run โดยมีเป้าหมายที่ 1,588/1,600 จุด แม้จะมีความผันผวนบ้างบริเวณ 1,560 จุด อิงแรงขายจาก Trigger Funds ที่ถึงเป้าหมาย ส่วนจุด stop profit ปรับขึ้นเป็น 1,535 จุด (จากเดิม 1,530 จุด) เราคงคำแนะนำ หุ้นกลุ่ม Domestic Plays กลุ่มรับเหมาฯ แบงก์ บ้าน ค้าปลีก (SYNTEC SCB QH CPALL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL AOT AAV) กลุ่มธุรกิจรับเหมาโซลาร์ (GUNKUL DEMCO SOLAR)
ขณะที่หุ้นเก็งกำไรที่ควรมีจุดขายตัดขาดทุน 3% เน้นหลักทรัพย์ที่ใกล้หลุด Cash Balance AIRA MPG PAE หุ้นไฟแนนซ์เล็ก ACAP JMT MIDA หุ้นค้าปลีก CPALL ICHI ส่วนหุ้นที่ควรระมัดระวังลงทุน คือ JAS คาดมีคำตัดสินศาลฯ วันนี้ กรณีขอคุ้มครองสินทรัพย์ของเจ้าหนี้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BLAND มูลค่าการซื้อขาย 990.07 ล้านบาท ปิดที่ 2.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 700.04 ล้านบาท ปิดที่ 6.60 บาท ลดลง 0.15 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 684.94 ล้านบาท ปิดที่ 3.04 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
UV มูลค่าการซื้อขาย 624.29 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 612.77 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
