กรมบัญชีกลาง เสนอรัฐบาลนำเงินกองทุนต่างๆ จำนวนกว่า 12,000 ล้านบาท กลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และให้ใช้เงินงบประมาณมีประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากตรวจพบว่ามีกองทุนจำนวนมากใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และให้ใช้เงินงบประมาณมีประสิทธิภาพในการบริหารเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากตรวจพบว่า มีกองทุนจำนวนมากใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพประมาณร้อยละ 20 คิดเป็นเม็ดเงิน 12,000 ล้านบาท จึงควรดึงเงินดังกล่าวกลับมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่น เช่น กองทุนอนุรักษ์พลังงาน กองทุนสิ่งแวดล้อม และกองทุนอื่นๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งมีเงินทุนส่วนเกินแต่กลับไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์
นอกจากนี้ ยังเตรียมร่าง พ.ร.บ.กองทุนหมุนเวียน เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายการเดินทาง ค่าที่พัก จัดซื้อ จัดจ้าง โดยเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาการให้ค่าตอบแทนพิเศษแก่ผู้บริหารกองทุน ปัจจุบันมีจำนวน 95 กองทุน เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงานของกองทุนต่างๆ
สำหรับแนวทางการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการชั้นผู้น้อย ตามที่มีกระแสข่าวว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณา หากตัดสินใจพิจารณา กรมบัญชีกลาง พร้อมดำเนินการได้ทันที เพราะขณะนี้ได้เตรียมพร้อมไว้ทุกขั้นตอน โดยไม่มีปัญหาเรื่องเงินงบประมาณเพราะยังมีเพียงพอ ปัจจุบันเงินคงคลังมีอยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท ยังรองรับการใช้การใช้จ่ายด้านต่างๆ ได้ แต่ต้องการรอให้ทุกอย่างชัดเจน เพราะหากมีกระแสข่าวออกไปล่วงหน้า จะทำให้สินค้าปรับขึ้นล่วงหน้าส่งผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
ส่วนการเบิกจ่ายปีงบประมาณ 2557 คาดว่าการเบิกจ่ายเงินของส่วนราชการ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายไว้ร้อยละ 95 คาดว่าเบิกจ่ายได้จริงร้อยละ 90.83 โดยเฉพาะงบลงทุนตั้งเป้าเบิกจ่ายร้อยละ 82 คาดเบิกจ่ายได้ร้อยละ 65.09 จึงคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ให้ข้าราชการระมัดระวังการใช้เงินของส่วนราชการ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี คุมเข้มการใช้เงิน เพราะได้มีเรื่องร้องเรียนต่อปีถึง 500 เรื่อง หรือคิดเป็นเงินประมาณ 18,000 ล้านบาท เพื่อให้เงินออกไปสู่ระบบอย่างมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของการเตรียมพร้อมรองรับการให้ข้าราชการตัดสินใจกลับไปใช้สิทธิบำนาญตามที่ต้องการ หลังการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญผ่าน สนช. และมีผลบังคับใช้ ขณะนี้ได้เริ่มชี้แจงต่อกรรมาธิการไปแล้ว จุดประสงค์คือ ต้องการให้ข้าราชการบำนาญ โดยเฉพาะผู้มีอายุราชการเกิน 37 ปีขึ้นไป แจ้งใช้สิทธิกลับไปรับบำนาญ ดังนั้น ในช่วงนี้จึงต้องเร่งทำประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการรับทราบข้อมูลอย่างชัดเจน เพราะจากการสำรวจพบว่า มีข้าราชการประมาณร้อยละ 10-12 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเวลาราชการทวีคูณสูงซึ่งจะคุ้มกว่า แต่หากอายุราชการไม่สูงจะไม่คุ้ม จึงเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล เพราะหากอยู่เป็นสมาชิกกับ กบข.ยังได้รับทั้งเงินสะสมจากรัฐบาลและผลตอบแทนในอนาคต
