“รังสรรค์” แจงข่าว “ออมสิน” ไม่ปล่อยกู้ “บินไทย” เผยคลังได้ศึกษาแหล่งเงินทุนไว้หลายแนวทาง คาดในปีนี้ “บินไทย” ต้องกู้โดยคลังไม่ค้ำประกันกับธนาคารทั่วไป วงเงิน 5-7 พันล้าน ส่วนในปี 2558 ต้องกู้ 2 หมื่นล้าน เพื่อเสริมสภาพคล่องและปรับแผนเช่าเครื่องบิน
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกมาว่า ธนาคารออมสินอาจไม่ปล่อยกู้ให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีรายได้ไม่ชัดเจนนั้น ยืนยันว่า กระทรวงการคลังได้ศึกษาแหล่งเงินทุนไว้หลายแนวทาง โดยคาดว่าในปีนี้การบินไทยต้องกู้โดยคลังไม่ค้ำประกันกับธนาคารทั่วไปวงเงิน 5,000-7,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องและชำระค่าเครื่องบิน
นายรังสรรค์ คาดว่า ในปีหน้าอาจใช้วิธีการให้กระทรวงการคลังหาแหล่งเงินกู้ เพื่อให้การบินไทยกู้ต่ออีกครั้ง หรืออาจให้การบินไทยทำการกู้เงินโดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน วงเงินประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ คงขึ้นอยู่กับความต้องการของการบินไทยและสถานะทางการเงิน
“คาดว่าในปี 58 การบินไทยจะต้องกู้เงินอีกราว 2 หมื่นล้าน เพื่อนำไปจ่ายค่าเครื่องบิน รวมทั้งใช้เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ”
โดยแนวทางการกู้เงินของการบินไทยนั้น ได้มีการหารือกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้น กระทรวงการคลังเห็นควรให้มีการแบ่งการกู้เงินเป็น 2 แนวทาง โดยปี 2557 การบินไทยจะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ในวงเงิน 5-7 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าการบินไทยยังมีความสามารถในการกู้เงินเองได้ เพราะยังมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน
ส่วนในปี 2558 อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า กระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดำเนินการกู้เงินให้ แล้วให้การบินไทยกู้ต่อ หรือให้การบินไทยกู้เองแล้วให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งคงต้องรอพิจารณาสถานการณ์ในขณะนั้นด้วย
สำหรับแผนฟื้นฟูของการบินไทยที่ส่งมาให้กระทรวงการคลังพิจารณานั้น ได้มีการปรับยุทธศาสตร์การจัดหาฝูงบินใหม่ โดยอาจจะเปลี่ยนเป็นการเช่าแทนการซื้อรวมถึงการปรับโครงสร้างพนักงานและผู้บริหาร
โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) คนใหม่ ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้เข้ามายื่นใบสมัครไม่มากจึงทำให้มีตัวเลือกน้อย ดังนั้น จึงได้ขยายเวลาการรับสมัครออกไปถึง ต.ค. 2557 คาดว่าจะมีข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ขณะที่ความคืบหน้าของการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่ระหว่างการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและกรมบัญชีกลาง และอยู่ในระหว่างการจัดทำในส่วนของรายละเอียด